1. คุณทั้งคู่มีความมั่นคงพอหรือยัง?
มีความมั่นคงทั้งเรื่องของหน้าที่การงานดูได้
จากปัจจุบัน หากฝ่ายชายยังคงไม่ทำงานเป็น
หลักเป็นแหล่งต กงาน ไร้อนาคต
คุณจะต้องคิดว่าจะฝากชีวิตไว้กับเขาอีกต่อไปหรือไม่
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ชีวิตครอบครัวมีมากกว่า
ความรัก ทั้งเรื่องการเงิ น การมีบุตร
ดังนั้นพวกคุณทั้งสองต้องมีความมั่นคงแล้ว
ทั้งในเรื่องการงานและความรักด้วย
หากคุณยังรู้สึกได้ว่าคนรักยังดูไม่มีรักที่มั่นคง
พอยังคงวอกแวกเจ้าชู้ หากเป็นเช่นนี้
ก็คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องแต่งงานเพราะหากใจ
ยังไม่มั่นคงเอาชีวิตเราไปฝากไว้กับเขาได้เช่นไร
2. ยอมรับข้อเสี ยของอีกฝ่ายได้หรือไม่?
คู่รักเมื่อคบกันมาสักระยะนิสัยที่แท้จริงก็มักจะโผล่
ออกมาให้เห็นในด้านลบ เช่น ข้อเสี ยของ
เขาอาจะเป็นคนใจร้อนไม่โรแมนติก ทำให้เราต้อง
น้อยอกน้อยใจอยู่บ่อยๆ ต้องถามตัวเราว่า
เรารับได้ในข้อเสี ยของเขามากเท่าไหร่
หากคุณบอกว่ายังรับได้ เพราะเราเองก็มีข้อเ สีย
แบบนี้ก็จะไม่เป็นปัญหาในอนาคตแต่ถ้าคุณคิดว่าต้องเหนื่อยใจแน่ๆ
ถ้าคบไปจนแต่งงานอาจจะต้องทบทวนใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ
3. คุณเข้ากับครอบครัวของเขาได้หรือไม่
ความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองคนแต่เป็นเรื่องของครอบครัวเรา
และเข า ด้วยตอบตัวเองให้ดีก่อนว่าเราสามารถรับครอบครัว
ของเขาได้หรือไม่ เราเข้ากันได้ดีไม่มีปัญหาหรือ
ถ้าหามีปัญหาเราจะรับมือและแก้ไขเรื่องนั้นได้อย่ างไร
เพราะหากปล่อยไว้คงไม่ดีแน่ๆ
ในอนาคตจริงอยู่ความรัก ขึ้นอยู่กับเราสองคนแต่อย่ าลืมว่า
เราทั้งคู่ต่างก็มีพ่อแม่ญาติพี่น้อง ซึ่งจะมีส่วนกับชีวิตเราอยู่บ้าง
ไม่มากก็น้อย หากเข้ากันได้ดีก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดีแต่ถ้าคำตอบคือ
ไม่ค่อยดีต้องรีบปรึกษาคนรักและฝ่าฟั นอุปสรรคนี้ไปด้วยกัน
4. มีการวางแผนในอนาคตแล้วหรือยัง?
สำคัญมากนะคะ ไม่ใช่แค่ความรักที่คุณมีให้กันแต่เป็นเรื่อง
ของการวางแผนชีวิต ไม่ว่าจะ
เรื่องลูกเรื่องบ้าน เรื่องรถ ห นี้สินต่างๆ หากแต่งงานโดย
ไม่มีการวางแผนก็เป็นไปได้ว่าใน
อนาคตจะเกิดปัญหาขึ้นได้กับครอบครัวของเรา
ซึ่งบางคู่ถึงกับเลิกรากันเลยทีเดียว
ดังนั้นควรต้องมีการวางแผนอย่ างดีเพื่อชีวิตคู่ที่สมบูรณ์
ขอบคุณที่มา : meokayna