1. ไม่ไปแหล่งที่ อั น ต ร า ย
หนุ่ม ๆ สาว ๆ ชอบเดินเล่นดูของที่ตัวเองชอบเสมอ ๆ ทำให้เกิดความอย าก
ได้และก็หาเหตุผลให้กับของเก่าที่มีอยู่ เช่นเดินดูโทรศัพท์มือถือบ่อย ๆ
เพราะชอบความแปลกใหม่ของยี่ห้อต่าง ๆ พอกลับมาบ้านกลับกลายเป็นโทรศัพท์
ที่มีอยู่ อยู่ดี ๆ ก็เกิดช้า เกิดอาการค้างขึ้นมา ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นมา
ก่อนเปิดก็ช้า ปิดก็ช้าไม่มี f u n c t i o n ที่เหมือนเครื่องที่เพิ่งสัมผัสมา
ตอนเย็น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด ก็เลยคิดว่าควรจะ
เปลี่ยนเพราะไม่ตอบโจทย์แล้ว ซึ่งมันเป็นอั น ต ร า ยต่อเงิ น
ในกระเป๋าอย่ างยิ่ง
2. ไม่ต้องเป็นที่สุด
กลัวจะต กรุ่นถ้าซื้อของชิ้นนี้ กลัวที่จะอายเพื่อนถ้าซื้อรุ่นต่ำ ถ้าซื้อรุ่นใหม่ที่สุด
น่าจะอยู่ได้นานความคิดแบบนี้ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปนะครับ
ถ้าคุณกลัวต กรุ่นแล้วหล่ะก็สินค้าที่คุณซื้อวันนี้ปีหน้าก็ออกรุ่นใหม่มาอีก
แล้วเครื่องเก่าของคุณก็จะต กรุ่น กลัวที่จะอายเพื่อนแต่บางครั้งของใช้
ก็ไม่ใช่ของที่จะเอามาโชว์ลองเปลี่ยนแนวคิดใหม่ซื้อเท่าที่จำเป็นเพราะ
ความจำเป็นของคนเราไม่เท่ากันและเงิ นในกระเป๋าก็ไม่เท่ากัน
คุณอาจจะต้องซื้อรุ่นที่สูงที่สุดเพราะคุณต้องใช้งานมันแบบนั้นแต่ถ้าคุณไม่จำ
เป็นก็ซื้อรุ่นที่ต่ำลงมาหน่อย ก็ประหยัดเ งินได้อยู่เหมือนกัน
3. พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
ก่อนที่จะซื้อของใหม่ ให้ลองคิดให้รอบคอบก่อนว่ามันจำเป็นจริง ๆ
ที่ต้องซื้อชำรุดเสี ยหายแล้วจริง ๆ ใช้งานไม่ได้แล้วจริง ๆ
หรือแค่อย ากได้เพราะเพื่อนยุ เครื่องเก่าอย ากทันสมัยหรือมีโปรลด
ราคาถ้าคิดได้ว่าจำเป็นจริง ๆ หรือไม่แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ
หรือจะรอไปซักพัก ก็จะมีเงิ นเก็บเพิ่มขึ้น
นิดหน่อยนะครับ
4. เอาเงิ นไว้ไกลตัว
เงิ นอยู่ใกล้ ๆ ตัวก็หยิบเอามาใช้ง่าย ๆ ก็หมดไปเร็ว ถ้าลองเอาเงิ นไว้ไกล ๆ
เช่นฝากธนาคารแบบไม่มีบั ต ร A T M จะต้องไปเบิกที่สาขาอย่ างเดียว
โอกาสที่จะเบิกเงิ นส่วนนั้นมาใช้ ก็จะยิ่งย าก แต่ก็ต้องแบ่งออกมาเป็นส่วนๆ
ไปนะครับเช่นเงิ นที่ใช้ประจำวันหรือฉุกเฉินจะต้องนำมาใช้ได้อย่ างง่าย
ส่วนเงิ นเก็บก็ควรเอาไว้ไกล ๆ ยิ่งเบิกย ากยิ่งดี ยิ่งบั ต รเ ค ร ดิ ต ละก็ลืมเอา
ติ ดตัวไปบ้างก็ดีนะ จะได้ไม่รูดเล่นจนไม่เหลือวงเงิ น
ขอบคุณที่มา : jingjai99