1. เลิกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ฟังคนอื่นมั่ง – คือสิ่งที่ผมมักบอกหลาย ๆ คนที่มักเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง
ประเภทชั้นทำอะไรถูกเสมอ ชั้นมีเหตุผลของชั้นและเหตุผลของชั้นนั้น
เพียงพอสำหรับทุ ก ๆ อย่ าง และพอมาก ๆ เข้าก็กลายเป็นว่าทุ กอย่ างในชีวิต
ต้องเป็นไปตามที่ตัวเองคิดสิ่งที่คนอื่นพูดมานั้นหากไม่ใช่การยอมรับหรือเห็นด้วย
ก็จะมองว่าไม่เข้าข้าง คิดผิด และปฏิเสธความคิดเหล่านั้นไปเสี ยหมด
ที่หนัก ๆ คือหลาย ๆ คนได้เจอคนดี ๆ เข้ามาตั กเตื อนก็ไม่ฟัง หาว่าคนเหล่านั้นไม่รู้เรื่อง
ไม่ใช่ตัวเอง ฯลฯผมมักพูดเสมอว่ามันมีเส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่างความเชื่อมั่นในตัวเอง
กับการหลงตัวเอง ซึ่งถ้าเราตั้งสติและแยกแยะไม่ดีแล้ว
เราจะข้ามเส้นไปสู่การทนงและเต็มไปด้วย Ego ชนิดที่ไม่ยอมรับเหตุผลอื่น ๆ ซึ่งอาจจะถูกหรือดี
กว่าที่เราคิดด้วยซ้ำนอกจากนี้แล้ว ชีวิตของเรายังมีคนมากมายที่อาจจะเก่งกว่าเรา รู้มากกว่าเรา
มีประสบการณ์มากกว่าเรา มีวิสัยทัศน์มากกว่าเรา
ซึ่งคนเหล่านี้ในมุมหนึ่งเหมือนครู / เทวดาของเราที่ช่วยเตื อนหรือแนะนำทางที่ใช่ให้กับเรา
แน่นอนว่าคำแนะนำบางอย่ างอาจจะขัดใจหรือไม่ตรงกับที่เราคิด แต่ก็นั่นแหละที่คำแนะนำ
เหล่านั้นหลาย ๆ ครั้งทำให้เราเปลี่ยนวิ ธีคิดไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้
ชีวิตผมเองก็ได้คนเหล่านี้ช่วยแนะนำและขัดเกลาตัวผมมาตลอดลองดูสิครับ ลองเปิดใจฟังคำแนะนำ
คำตั กเตื อนของคนที่คนมองว่าน่าเชื่อถือ และปรารถนาดีกับคุณ
อย่ าฟังแต่เฉพาะเ สียงที่เยินยอ สรรเสริญคุณ
หรือปลอบแบบเห็นอกเห็นใจคุณโดยไม่สนผิดถูก (ซึ่งเอาจริง ๆ เ สียงเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว
และพึงระวั งเสี ยอีกต่างหาก)เพราะนั่นอาจจะเป็นการสร้างกะลามาครอบตัวคุณโดยไม่รู้ตัว
2. เลิกเอาตัวเองไปตาม / เทียบกับคนอื่น
หนึ่งในความทุ กข์มาตรฐานของคนแบบเรา ๆ คือการที่พบว่าตัวเองด้ อยกว่าคนอื่น
ตัวผมเองก็เคยต กอยู่ในภาวะแบบเดียวกันเมื่อผม พ ย า ย า ม เอาชีวิตตัวเองไปเทียบ
กับคนรอบข้าง ทั้งที่จริง ๆ แล้วการเทียบแบบนี้มีแต่จะทำให้เรากดดัน รู้สึก แ ย่
เพราะท้ายที่สุดเราก็จะ พ ย า ย า ม มองไปว่าเราด้อยกว่าเขาเรื่องนั้นเรื่องนี้
(หรือถ้าใครดีกว่าก็กลายเป็นว่าดูถู กคนอื่นเสี ยอีก)
นั่นยังไม่นับกับการ พ ย า ย า ม เดินตามคนอื่น ๆ จนหลาย ๆ คนก็ลืมตัวตนของตัวเองไปเลย
สำหรับผมนั้น สิ่งที่ดีคือ การที่เราหาคุณค่าในแบบตัวเราเองแล้วขัดเกลามันให้ดี
ในแบบที่เราเป็น ไม่ต้องไปเทียบว่าคนอื่นเป็นอย่ างไร
เราต้องไม่ลืมว่าคนอื่น ๆ นั้นมีปัจจัยที่ต่างจากเรา ไม่ว่าจะพื้นฐานครอบครัว ประสบการณ์ ฯลฯ
ซึ่งมันไม่แฟร์เลยที่เราจะ พ ย า ย า ม เอาตัวเราไปเทียบกับเขาเพียงเพื่อจะเอาชนะ
(และสุดท้ายก็แพ้อยู่ดี)
3. เลิกคิดว่าคนอื่นไม่เข้าใจตัวเอง / ไม่มีใครเป็นแบบฉัน
เอาจริง ๆ มันก็ไม่มีใครที่จะมีประสบการณ์แบบเรา 100% เพราะแต่ละคนก็ล้วนมีปัจจัยที่แต กต่างกันไป
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเข้าใจและเข้าถึงตัวเราไม่ได้
การไปตราหน้าเขาว่าไม่เข้าใจ ไม่รู้จักตัวเรา
มันก็กลายเป็นการสร้างอคติให้ตัวเราเองจนไม่สามารถฟังความเห็นหรือมุมมองจากคนอื่น
ในประสบการณ์ของผมนั้น คนเก่ง ๆ และคนที่สามารถสร้างทางชีวิตไปสู่สิ่งดี ๆ
นั้นคือคนที่เปิดรับมุมมองจากคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเอง “เห็นรอบ” มากขึ้น
ก่อนจะสามารถเลือกเดินได้อย่ างดี ทั้งนี้เพราะพวกเขาจะเห็นอะไรมากกว่า
ที่เขามองด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
แม้ว่าใคร ๆ ก็อาจจะไม่ได้เข้าใจคุณ 100% แต่บางอย่ างจากประสบการณ์
ของพวกเขาก็อาจจะเคยผ่ านอะไรที่คล้าย ๆ กัน
เทียบเคียงกันได้ บ้างก็อาจจะเคยเจออะไรที่หนักกว่าเราเสี ยด้วยซ้ำ
มันเลยน่าจะเป็นเรื่องดีที่ลองฟังเรื่องราวและมุมมองจากเขาแล้วเอามาประกอบการวิเค ราะห์
ของเราเอง (แทนที่จะปิดกั้นตั้งแต่ยังไม่ทันรู้)
นอกจากนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้เราโตขึ้นคือการได้สะสมประสบการณ์ต่าง ๆ
ซึ่งการเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น ๆย่อมดีกว่าการที่เราสนใจแต่ประสบการณ์
ของตัวเราเองคนเดียวนั่นแหละ
ขอบคุณที่มา : sabailey