Home ข้อคิดสอนใจ ฝ า ก ถึง ยุ ค นี้มนุษย์ เ งิ น เดือน ทุ ก คน

ฝ า ก ถึง ยุ ค นี้มนุษย์ เ งิ น เดือน ทุ ก คน

1. จงเป็น “ลูกจ้างมืออาชีพ”

ถ้าอย า กเป็นมนุษย์เงิ นเดือนที่ประสบความสำเร็จและมีความสุข จงเป็น “ลูกจ้างมืออาชีพ”

ให้ได้ ลูกจ้างมืออาชีพก็คือคนที่ตระหนักได้ว่า “เราถูกจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง”

 

นั่นหมายความว่าบริษัทเค้าต้องการอะไรบางอย่ างจากเราแลกกับค่าตอบแทนนั้นๆ

เราต้องรู้ว่าบริษัทจ้างเรามาทำอะไร และทำมันให้ดีกว่าที่บริษัทคาดหวังหากต้องการ

ความก้าวหน้าในหน้าที่

 

หากงานที่ทำอยู่รู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่ควรอดทนทำไป

ควรจะหางานที่เราทำแล้วเรามีความสุขและทำได้ดีเพื่อดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้มากที่สุด

 

นอกจากจะทำให้เราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังทำให้เราพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาและ

ไม่เบื่อด้วย แต่ก็ไม่ได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ อดทนทำไปจนถึงจุดหนึ่ง

 

เราจะรู้เองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วเราจะเป็น Expert

ได้เร็วกว่าคนอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกกี่ครั้งก็ได้ ถ้าในที่สุดเรา

เจอสายอาชีพที่เรารักและอย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก

 

และ ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน “เราถูกจ้างมาด้วยค่าตอบแทนจำนวนหนึ่ง” อย่ าทำงานหนักเกิน

กว่าค่าตอบแทนจนเกินไป ทุ่มเทได้ แต่ต้องมีผลลัพธ์ที่ดีตามออกมาด้วย เช่นได้ปรับเงิ นเดือน

ได้ประเมินดี

 

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ ญาติ ๆ บ้ า ง หันกลับไปมองข้างหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้

ตอนนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้ า งนะ? อย่ าลืมว่าพ่อแม่แ ก่ลงทุ กวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย

 

ถ้าเดือนไหนมีเงิ นเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้ท่านแล้วหาเวลาไป มันไม่ลำบากหรอก

แลกกับความสุขของพ่อแม่

 

1. อย่ าเป็นตัวของตัวเองเกินไปในโลกออนไลน์

หลายคนเชื่อว่าโลกออนไลน์เป็นพื้นที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แต่รู้รึเปล่าว่า HR

สมัยนี้นอกจากจะดู resume เราแล้ว ยังดูเฟซของเราด้วย เพื่อนเราที่เป็น HR ยืนยันมาว่า

หน้าเฟซบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราได้มากกว่า

 

Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่เราโพสลงบนโลกออนไลน์ของเรานั้นมีผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างาน

ซะอีก เมื่อเราเป็นมนุษย์เงิ นเดือนเต็มตัว เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระวั ง หรือ

 

ถ้าอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริง ๆ แนะนำให้แยกเฟซที่ทำงาน กับ เฟซส่วนตัวเลย

แล้วปิดสาธารณะด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในที่ทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้างี่เง่า

ห้ามโพสต์เด็ดข าด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่นอน

4. หาคนที่เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงานให้เจอ

ความแต กต่างระหว่าง “เพื่อน” กับ “เพื่อนร่วมงาน” คืออะไร…? ที่เค้าบอกว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย า ก

ก็คงจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนใหม่ไม่ย า กเท่าสมัยมัธยม และ การหาเพื่อนในสมัยมัธยมก็

ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันแปลว่ายิ่งเราโตขึ้นเท่าไหร่ เราจะหาเพื่อนย า กขึ้นเท่านั้น

 

และไม่ต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนที่จริงใจคนนึงในออฟฟิศมันย า กแค่ไหน นอกจากจะมีเรื่องผล

ตอบแทน ทั้งตำแหน่ง เงิ นเดือน การประเมิน เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์เงิ นเดือน

 

อย่ างเราคือไปทำงาน ไม่ได้ไปทำกิจกร รมสานสัมพันธ์หาเพื่อน ดังนั้นวันๆ เราจึงจะเจอแค่เพื่อนร่วมทีม

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานเท่านั้น การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบนี้

เราคิดว่ามันคือกำไรชีวิต

 

พย า ย า มหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น

ให้เราลองถามตัวเองว่า “ถ้าเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย า กนัดคนนี้กินข้าวอยู่ไหม…?”

ถ้าคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆ ในที่ทำงานแล้ว

 

3. มีแฟนในที่ทำงานได้แต่ต้องยอมรับผลที่ตามมา

ถ้าคุณเป็นคนที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก แนะนำว่าอย่ ามีแฟนในที่ทำงาน ไม่ได้บอกว่า

ไม่ควรคบคนในที่ทำงาน แต่ถ้าคบแล้วก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้ อาจต้องเจอเหตุการณ์เช่น

 

ทะเลาะกับแฟนมาแล้วต้องมาคุยงานกัน มีใครบ้ า งแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากงานได้

100% บ้ า ง ถ้าไม่ต้องเจอหน้ากันทุ กวันหรือทำงานใกล้ชิดก็ยังพอโอเค แต่ถ้าทีมเดียวกันอาจจะ

เหนื่อยหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อไหร่รู้ทีค่อนบริษัท

 

ขอบคุณที่มา : jingjai999

Comments are closed.

Check Also

แนวคิด10 ข้อ สอนลูกให้ได้ดี เติบโตไปจะได้ไม่ลำบาก

เรื่องราวสอนใจ เผิงลี่หยวน เธอได้แสดงความคิดเห็น กับเรื … …