1. ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้
อุปนิสัยที่สำคัญสำหรับเศรษฐีอีกข้อหนึ่งคือ
“ใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้”และที่สำคัญกว่านั้นคือ
“ต้องมีวินัยในการออม” ไปพร้อม ๆ กัน
ไม่ใช่พอมีรายได้เพิ่มขึ้นแล้วจะกลายเป็นหน้าใหญ่ใจโต
ซื้ อของโก้หรูมาใช้เปลี่ยนบ้านใหม่ รถใหม่
แต่เราต้องสร้างนิสัยที่ดีเรื่องการเงิ นไว้ล่วงหน้าต่างหากครับ
2. สร้างคุณค่าในงานที่ทำ
เศรษฐีส่วนใหญ่จะสร้างคุณค่าในงานมากกว่าคนธรรมดาถึง 2-3 เท่า
นั่นคือใส่ความตั้งใจลงไปในงานทุ กชิ้น
ที่พวกเขาได้ลงมือทำรวมถึงทุ่มเททำงานโดยที่ไม่ย่อท้อ
และที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขายังเลือกสร้างคุณค่าในตัวเอง
ด้วยการลงทุนในความรู้ตลอดเวลาอีกด้วย
3. เป็นคนใจกว้าง และไม่เห็นแ ก่ตัว
หลายคนมักมีความเชื่อผิด ๆ ว่า คนร วยคือคนที่เห็นแ ก่ตัว
เบียดเบียนคนอื่นแต่ทว่าเศรษฐีที่แท้จริงนั้น เขาจะเป็น
ผู้สร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นต่างหากครับ
เพราะยิ่งเขามีเงิ นมากขึ้น เขายิ่งช่วยเหลือโลกนี้ได้มากขึ้น
และที่สำคัญการสร้างความร่ำร วยทั้งหลายนั้น คือ การสร้าง
คุณค่าให้กับคนจำนวนมาก
ไม่ว่าจะเป็นความคิดอันทรงพลัง หรือผลงานที่เป็นประโยชน์
ต่อสังคมในวงกว้างถึงจะทำให้คนเหล่านั้น
กลายเป็นเศรษฐีตัวจริง และที่สำคัญที่สุดคนเหล่านี้ไม่เคย
คิดเห็นแ ก่ตัว แต่คิดจะให้ผู้อื่นตลอดเวลามากกว่าครับ
4. ไม่เคยท้อแท้แม้จะไม่ถึงเป้าหมาย
แน่นอนว่าเราทุ กคนไม่ใช่มนุษย์ขั้น เ ท พ ย่อมจะมีสิ่งที่ผิ ดพลาด
และไม่ประสบความสำเร็จในระหว่างทางที่ก้าวเดิน
ธุรกิจอาจจะเจ๊ง เป้าหมายอาจจะพลาดแต่สำหรับคนที่มีคุณสมบัติ
เป็นเศรษฐีนั้น เมื่อผิ ดพลาดและผิดหวังจากสิ่งที่ทำ
เขามักจะถามตัวเองเสมอว่า “เราได้เรียนรู้อะไรจากข้อผิ ดพลาดนั้นบ้าง”
เมื่อได้คำตอบแล้ว ก็อย่ าทำพลาดซ้ำสองอีก
นี่แหละครับคือเหตุผลที่ทำให้เศรษฐีทั้งหลายไม่ยึดติ ดกับความผิดหวัง
แต่มุ่งเป้าหมายไปยังความสำเร็จตลอดเวลา ชนิดที่เรียกว่า
ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้
5. จับจ้องในเป้าหมายทุ ก ๆ วัน
เมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการจับจ้องหรือ Focus ไปที่เป้าหมาย
ใช้พลังและความคิดสร้างสรรค์ที่เรามีเพื่อให้รู้ว่า
เราจะไปถึงเป้าหมายได้อย่ างไรอย่ างเช่น ถ้าเราบอกตัวเองว่า อ ย า ก
ทำ ธุ ร กิ จ อ อ น ไ ล น์ เราต้องรู้ด้วยว่าเราจะทำ
ธุ ร กิ จ อ อ น ไ ล น์ แบบไหน อย่ างไร และทำยังไงบ้าง
เศรษฐีนั้นไม่ใช่คิดถึงเป้าหมายทุ กเดือนหรือทุ กวัน
แต่พวกเขาเหล่านั้นคิดถึง
เป้าหมายและความก้าวหน้าในทุ ก ๆ ชั่ วโมงเลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา : smileroyyim