1. ปรับแผนทางการเงิ นใหม่
วิ ธีการที่จะช่วยทำให้ปลดห นี้ได้เร็วและยั่งยืนมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น
การเริ่มต้นปรับแผนทางการเ งินใหม่ ซึ่งวิ ธีนี้นอกจากจะช่วยลดห นี้
และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีแล้ว ยังเป็นพื้นฐานของการวางแผนทางการเ งิน
ให้ชีวิตสามารถบรรลุสู่เป้าหมายที่ตั้งใจในระยะย าวได้อีกด้วย
โดยในบทความนี้จะขอหยิบยกวิ ธีการปรับเปลี่ยนพฤติกร รมทางการเงิ น
ที่จะช่วยทำให้คุณปลดเปลื้องภาระห นี้ที่มีอยู่ออกไปได้จนหมด
และสร้างวินัยทางการออมขั้นเริ่มต้นได้ง่าย ๆ
ด้วย 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.1 ขั้นที่ 1
วางแผนรายรับ-รายจ่าย
สาเหตุที่คนเรามักมีพฤติกร รมการใช้จ่ายเกินตัว
เป็นเพราะมองไม่เห็นว่าในแต่ละเดือนเราหมดเงิ นไปกับสิ่งต่าง ๆ
มากน้อยแค่ไหน
ดังนั้น การเริ่มต้นปลดห นี้ด้วยการวางแผนรายรับ-รายจ่ายจึงเป็น
สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้มองเห็นภาพกว้างมากขึ้นว่า
ในแต่ละเดือนควรสร้างสมดุลให้กับรายรับและรายจ่ายให้เกิดขึ้น
ได้อย่ างไร ด้วยการสร้าง 2 บัญชีหลักไว้สำหรับบันทึกค่าใช้จ่าย ดังนี้
บัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำวัน
เป็นรูปแบบบัญชีที่ช่วยในการสำรวจตัวเองว่า การใช้เงิ นในแต่ละวัน
เกินงบที่ตั้งไว้แต่แรกหรือไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่เสี ยไปแบบ
เปล่าประโยชน์เพราะพฤติกร รมแบบเดิม ๆ หรือเปล่า
เช่น ค่าเครื่องดื่มอย่ างน้ำอัดลม ชา กาแฟ ที่ต้องจ่ายวันละ 20-30 บาท ฯลฯ
เงิ นจำนวนนี้อาจจะเป็นเงิ นจำนวนเล็กน้อยในแต่ละวัน
แต่เมื่อนำบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำวันมาดูพร้อมกันก็จะเห็นความฟุ่มเฟือย
ที่อาจไม่จำเป็นเกิดขึ้นแบบซ้ำ ๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีสำหรับการปลดห นี้
เนื่องจากไม่สามารถลดรายจ่ายได้เลย ดังนั้น บัญชีประเภทนี้จึงเป็นหลักฐาน
ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า คุณควรจะเริ่มปรับเปลี่ยน
การใช้จ่ายในแต่ละวันอย่ างไร ถึงจะทำให้ลดค่าใช้จ่าย
และมีเงิ นเก็บได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
บัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน
เป็นบัญชีภาพรวมที่จะทำให้มองเห็นค่าใช้จ่าย
ในแต่ละเดือนว่ามีสัดส่วนเป็นอย่ างไร โดยต้องทำการแบ่งหมวดห มู่
การใช้จ่ายเ งินในแต่ละเดือนเอาไว้ว่า
มีรายรับและรายจ่ายอะไรที่หมุนเวียนในเดือนนั้น ๆ บ้าง
และควรลดสัดส่วนการใช้จ่ายตรงไหนถึงจะสามารถหักลบกลบกับห นี้
ที่มีได้ทันกับเวลาที่กำหนด
1.2 ขั้นที่ 2
ตั้งเป้าหมายทางการเ งิน
ปกติแล้วจะเป็นการวางแผนเพื่อการออมเงิ น แต่สำหรับคนที่ยังมีห นี้
การตั้งเป้าหมายในครั้งนี้อาจจะเป็นการตั้งเป้าการชำระห นี้ให้ครบโดยเร็ว
ซึ่งอาจใช้การกำหนดเวลาช่วยด้วยก็ได้
เช่น มีห นี้อยู่ทั้งสิ้น 1 ล้านบาท ต้องการชำระให้หมดภายใน 2 ปี
การตั้งเป้าแบบนี้ก็จะช่วยทำให้คุณมองเห็นว่า หากต้องการใช้ห นี้
จำนวนนี้ในระยะเวลา 2 ปี ในแต่ละเดือนควรจะเริ่มทำอะไรบ้าง
ซึ่งอาจจะเริ่มวางแผนการเก็บเ งินให้ได้เดือนละ 42,000 บาท
ด้วยวิ ธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิ นออมทรัพย์ที่ให้ด อกเบี้ยสูง,
การลงทุนในกองทุนรวม หรือการหารายได้เสริมที่นอกเหนือไปจาก
เ งินเดือน เป็นต้น
1.3 ขั้นที่ 3
รู้จักการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ
การลงทุนก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิ ธีที่จะช่วยทำให้คุณบรรลุเป้าหมาย
ในการปลดห นี้ได้ไวขึ้น โดยอาจจะแบ่งห นี้ที่สามารถชำระ
ได้ในระยะย าวออกมา
และคำนวณดูว่า การลงทุนแบบไหนที่จะสามารถสร้างรายได้ที่
เพียงพอจะชำระห นี้ก้อนนี้ได้บ้าง แต่ก็อย่ าลืมว่าการลงทุนมา
พร้อมกับความเ สี่ยง
ดังนั้น การบริหารความเ สี่ยงด้านการลงทุนเท่าที่รับไหวจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ต้องใช้เวลาศึกษาสำหรับผู้เริ่มต้นการลงทุน
2. แยกประเภทห นี้ให้ถูกต้อง
ในกรณีที่มีห นี้สินหลายก้อน แนะนำให้เริ่มต้นจากการจัดหมวดห มู่ห นี้
ออกมาเป็นประเภท เพื่อเป็นการจัดลำดับห นี้สินที่มีอยู่
ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถตัดสินใจได้ว่า ห นี้ในส่วนไหนเป็นเงิ นคงค้าง
ที่ต้องได้รับการชำระก่อน-หลัง โดยคุณสามารถแบ่งแยกห นี้ที่มีออกเป็น 2 กลุ่ม
ได้ดังนี้ ห นี้ดี กับห นี้ไม่ดี การปลดห นี้ด้วยการคัดแยกห นี้ดี
และห นี้ไม่ดี เป็นวิ ธีการจัดหมวดห มู่ห นี้ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้พฤติก รรม
การใช้เ งินที่ก่อให้เกิดห นี้ตามมาได้ในทีเดียว โดยจะต้องจำแนก
ให้ได้ว่า ห นี้ที่มีอยู่หลายก้อนนั้น เป็นห นี้ที่สามารถสร้างรายได้
กลับมาให้ในภายหลัง (ห นี้ดี) หรือเป็นห นี้
ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ตามมาเลย (ห นี้ไม่ดี)
ยกตัวอย่ างห นี้ทั้ง 2 รูปแบบ เช่น ห นี้จากการซื้อสินค้า
เสื้อผ้า หรือของใช้ต่าง ๆ ที่เป็นสินค้าตามแฟชั่น
ตลอดไปจนถึงการกินอาหารหรู
มื้อละหลายร้อยบาท ทั้งหมดนี้เป็นห นี้ไม่ดี
ที่เกิดจากความฟุ่มเฟือยของตัวเอง ส่วนประเภทห นี้สินที่เกิดจากการลงทุน
อย่ างการปล่อยเช่าอสังหาฯ จะเป็นห นี้ที่จัดอยู่ในประเภทห นี้ดี
ที่สามารถสร้างรายได้จากค่าเช่า ซึ่งช่วยในการผ่อนทรัพย์สินที่ซื้อมา
แถมยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา หากต้องการจะขายในภายหลัง
ก็ยังสร้างกำไรให้กับเจ้าของห นี้ได้อีกด้วย จัดลำดับห นี้ตามอัตราการเ สียด อก
เบี้ย หลังจากจำแนกห นี้ดี ห นี้ไม่ดีได้แล้ว ก็ให้นำห นี้ทั้ง 2 ประเภท
มาจัดอันดับ และแยกแยะเพื่อเข้าสู่กระบวนการปลดห นี้ในขั้นต่อไป
นั่นก็คือ การเรียงลำดับว่า ห นี้ก้อนไหนเป็นห นี้สินที่จะต้อง
เสี ยด อกเบี้ยมากที่สุด
ให้เริ่มปลดห นี้ส่วนนั้นก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อหยุด วงจรการทบต้น
ทบด อกของห นี้ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้ปลดห นี้ได้ไวยิ่งขึ้นด้วย
3. หยุด วงจรการสร้างห นี้
ในระหว่างที่ยังชำระห นี้เก่าไม่หมดก็ต้องหยุดการสร้างห นี้ใหม่
ด้วยมาตรการรัดเข็มขัดให้ตัวเอง ซึ่งคุณสามารถศึกษาวิ ธีการ
ลด ละ เลิก การสร้างห นี้ได้
ดังนี้ ตัดภาระรายจ่ายที่ไม่จำเป็น วิ ธีการหยุดวัฏจักรห นี้คงค้าง
สิ่งแรกที่ต้องเริ่มทำเลยคือ การเริ่มต้นควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
โดยการหั่ นรายจ่ายต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องฟุ่มเฟือยที่ทำให้กระแสเงิ นสด
ของคุณสะดุด เช่น การช้อปปิ้ง การสังสรรค์ การท่องเที่ยว เป็นต้น
ซึ่งวิ ธีนี้เป็นวิ ธีที่เร็วที่สุดในการช่วยปลดห นี้
เพราะคุณสามารถนำเงิ นส่วนนี้มาใช้ในการปลดห นี้บางส่วนได้ก่อน
ที่ด อกเบี้ยจะบานปลาย
หยุดการใช้บัตรเครดิต บัตรเครดิตถือเป็นตัวช่วยในการจับจ่ายใช้สอย
สำหรับคนในยุคปัจจุบัน แต่ด้วยรูปแบบการใช้งานที่แสนสะดวกสบาย
ใช้ผ่อนสินค้าง่าย แถมยังมีส่วนลดล่อตาล่อใจ ทำให้บัตรเครดิต
กลายเป็นตัวสร้างห นี้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ถ้าคุณมีบัตรเครดิตหลายใบและไม่สามารถวางแผนการใช้งานได้
แน่นอนว่า จะสร้างห นี้เกินกว่าที่จะจ่ายไหว
ดังนั้น คุณจะต้องหยุดการใช้บัตรเครดิต เพื่อเป็นการปลดห นี้
บัตรเครดิตให้หมดไว ซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยน
นิสัยการใช้จ่ายให้ดีขึ้นได้ด้วย
ห้ามยุ่งกับการกู้ห นี้นอกระบบ แม้จะอยู่ในช่วงที่กระแสเงิ นสดข าดมือ
มากขนาดไหน ก็ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการกู้ห นี้นอกระบบเด็ดข าด
เพราะการกู้ห นี้นอกระบบจะทำให้คุณเจอกับเจ้าห นี้ที่คิดด อกเบี้ย
ในอัตราที่เกินกว่ากฎเกณฑ์ ทำให้ห นี้สินที่มีอยู่เพิ่มมากขึ้นเกิน
กว่าความสามารถในการจ่าย
แถมยังเ สี่ยงอั นตรายกับการถูกตามทวงห นี้ด้วยวิ ธีนอกกฎหมายอีกด้วย
ควรเลิกใช้วิ ธีหมุนเ งินเพื่อโปะยอดห นี้ การยืมเงิ นจากเพื่อนอีกคนหนึ่ง
มาโปะยอดห นี้ของเพื่อนอีกคนหนึ่ง หรือการใช้วิ ธีถอนเ งินสดจากบัตรเครดิต
ออกมาเพื่อใช้จ่ายห นี้อื่น ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนไม่ใช่วิ ธีที่ทำให้คุณปลดห นี้ได้
แถมยังมีโอกาสเพิ่มห นี้สินจากการเพิ่มอัตราด อกเบี้ยในส่วนที่หยิบยืมเ งิน
จากอนาคตมาใช้ รวมถึงอาจทำให้เสี ยความเชื่อใจกับคนรอบข้างได้ด้วย
ดังนั้น การปลดห นี้ให้ได้ผลจึงควรเลิกใช้วิ ธีการหมุนเงิ นเพื่อโปะยอดห นี้
คงค้างเดิม แต่ควรจะเริ่มจากการลดค่าใช้จ่าย
และเริ่มปรับโครงสร้างห นี้ใหม่ ด้วยการวางแผนการชำระห นี้
ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น