1. พ ย าย ามควบคุมชั่ วโมงการใช้แอร์
หากเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน เปิดประจำไม่พักเลยแน่นอนว่า
ค่าไฟทะลุเพดานชั วร์ฉะนั้นแล้วก็ควรควบคุมชั่ วโมงการใช้แอร์บ้าง
เพื่อให้แอร์ได้พักแล้วก็ยังประหยัดไฟด้วย อาจจะใช้เป็นตั้งเวลาเปิด – ปิดแอร์ไว้
กลางคืนอากาศเย็นบางทีแค่พัดลมก็เพียงพอแล้ว
2. เลี่ยงการนำความชื้ นเข้าในห้อง
แอร์นั้นสามารถกำจัดความชื้นได้ก็จริง แต่ว่าหากความชื้นมากไปแอร์จะยิ่งทำงานหนัก
แอร์ทำความเย็นเพียง 30 % เท่านั้น 70 % ใช้ในการกำจัดความชื้น
ฉะนั้นแล้วอะไรที่ก่อความชื้นพย าย ามอ ย่ าให้มีในห้อง เช่น ผ้าขนห นูเปียก
ไม่ควรตากภายในห้อง ต้นไม้ ฯลฯ
3. แอร์ตอนกลางคืนเพิ่มอุณหภูมิด้วย
ปกติหากเปิดตอนกลางวันที่ 23 – 25 องศา แต่กลางคืนนั้นอากาศจะเย็นกว่า
ก็ปรับไปเป็น 26 – 28 องศากำลังพอดีและทำให้แอร์นั้นไม่กินไฟมากเกินไปด้วย
4. ปิดไฟห้อง รับแสงภายนอกบ้าง
หากเราเปิดไฟ เปิดแอร์ในห้องตลอดมันก็จะเปลืองไฟ บางวันอากาศดี ๆ
เราก็เปิดรับลม รับแสงธรรมชาติบ้าง ยิ่งถ้าเป็นหน้าร้อน
หากเราเปิดไฟตลอด ความร้อนจากไฟก็จะไปสะสมในผนังได้
เวลาเปิดแอร์ก็ปิดไฟใช้แสงจากหน้าต่างแทนก็ได้ ห้องจะได้ไม่ร้อนจนเกินไป
5. เวลาเปิดแอร์ปิดประตู/หน้าต่างให้เรียบร้อย
หากเราเปิดไว้แอร์จะรั่วออกไปด้านนอกก็แปลว่าแอร์จะทำงานหนักขึ้น
ซึ่งก็คือจะต้องใช้ไฟเยอะขึ้นทำให้เปลืองไฟนั่นเอง
แต่ถ้าหากเราปิดให้เรียบร้อยแอร์ก็จะอยู่ภายในห้องนั้น
ไม่ไหลออกไปด้านนอก ก็ไม่ต้องเปลืองไฟโดยไม่จำเป็น
6. ควรจะล้างแอร์ด้วย
การล้างแอร์อ ย่ างสม่ำเสมอจะทำให้แอร์ทำงานอ ย่ างเต็มประสิทธิภาพ
เสมอหากเราไม่ล้างก็จะเสื่อมสภาพลงได้
หากไม่ล้างแอร์จะทำงานหนัก ทำให้เปลืองไฟ
7. เปิดพัดลมช่วยแอร์
เป็นการกระจายความเย็นให้ทั่วห้อง เวลาเปิดแอร์นั้นกว่าจะทั่วห้อง
อาจใช้เวลาและเปลืองไฟ การเปิดพัดลมช่วยพัด
ให้ความเย็นทั่วห้องเร็ว ๆ ก็เป็นอีกวิ ธีที่จะช่วยทำให้ในห้องเย็นเร็วขึ้น
ช่วยให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักไป อุณหภูมิของแอร์
ก็อยู่ที่ 26 – 27 องศากำลังพอดี
ขอบคุณที่มา : krustory