1. พย าย ามจ่ายให้เกินเ งินงวดในทุ ก ๆ เดือน
เงิ นสินเชื่อบ้านนั้นจะมีทั้งเงิ นต้นและเงิ นด อ ก ในช่วงแรก ๆ นั้นแน่นอนว่า
จะมี ด อ ก เ บี้ ย สูงมากดังนั้น
หากคุณจ่ายเท่ากับจำนวนเ งินที่ธนาคารกำหนดมานั้นคุณต้องใช้ห นี้กันเต็ม ๆ
30 ปีเลยนะคะ ดังนั้นคุณจึงควรจ่ายเพิ่มขึ้นทุ ก ๆ เดือน
เพราะเงิ นที่จ่ายเกินไปในแต่ละเดือนนั้น ธนาคารจะนำไปลดเ งินต้นของคุณนั่นเอง
ตัวอย่ างเช่น เงิ นงวดที่คุณจะต้องชำระ
แต่ละเดือนเท่ากับเดือนละ 15,000 บาทแต่หากคุณผ่อนเกินไปเดือนละ 20,000 บาท
ก็จะทำให้เงิ นต้นของคุณลดลงไปเดือนละ 5,000 ในทุ ก ๆ เดือน
เมื่อเงิ นต้นของคุณลดลงแล้วจะทำให้ระยะเวลาในการผ่อนของคุณลดลง
ไปด้วยเหลือเพียบ 15-20 ปีเท่านั้น
2. รีบผ่อนจ่ายให้มากในช่วงด อกเบี้ยต่ำ
ช่วง 3 ปีแรกของการกู้ซื้อบ้านแน่นอนว่า ด อ ก เ บี้ ย จะถูกที่สุด เนื่องจากโปรโมชั่น
ของแต่ละธนาคารจะพย าย ามเสนอให้คุณ
ในอัตราด อ กเบี้ยที่ต่ำกว่าคู่แข่งเพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกกู้กับธนาคารนั้น
ดังนั้นคุณจึงควรจัดสรรเงิ นเก็บในช่วง 3 ปีแรก
เพื่อนำมาผ่อนให้มากขึ้น เพื่อไปลดเงิ นต้นและ ด อ ก เ บี้ ย ในการกู้
เมื่อเงิ นต้นลดลงก็จะทำให้ ด อ ก เ บี้ ย ลดลงเช่นกัน
ทำให้ระยะเวลาในการผ่อนจาก 30 ปีจะลดลงไปด้วย
3. โปะเงิ นก้อน
ในแต่ละปีหากคุณมีเ งินเก็บหรือได้โบนัสมาจากบริษัทที่ทำงานอยู่
คุณสามารถนำเงิ นก้อนเหล่านี้มาโปะห นี้บ้านของคุณ ซึ่งเงิ นก้อนนี้สามารถ
ลดทั้งต้นและ ด อ ก เ บี้ ย ลงเป็นจำนวนมากเลยค่ะหรือคุณอาจจะวางแผน
เพื่อจ่ายเงิ นงวดเพิ่มขึ้นอีก 1 งวด จากเดิมคุณต้องจ่าย 12 งวด
แต่ให้คุณจ่ายเพิ่มเป็น 13 งวด ก็สามารถลดเงิ นต้นและเงิ น
ด อ ก เ บี้ ย บ้านให้กับคุณไปได้มากเช่นกัน
4. เมื่อครบกำหนดของธนาคารให้ปรับโครงสร้างห นี้ใหม่
โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อผ่อนบ้านผ่ านไปครบ 3 ปีแล้ว ด อ ก เ บี้ ย บ้านจะเปลี่ยนเป็นแบบ MRR
(อัตราด อ กเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี)
ตัวอย่ างเช่นใน 3 ปีแรกธนาคารกำหนดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย เฉลี่ยอยู่ที่ 3 บาทต่อปี
เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 ธนาคารกำหนดให้ ด อ ก เ บี้ ย เป็น MMR-1 แล้ว MRR
ในแต่ละปีจะแต กต่างกันไป สมมุติในปีนี้กำหนดให้ MMR = 7%
ดังนั้นกลายเป็นว่าปีนี้คุณจะต้องจ่ายเท่ากับ 7-1 = 6 บาท ซึ่งหมายถึง ด อ ก เ บี้ ย
เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวและเงิ นงวดที่จ่ายไปนั้นจะจ่ายเป็นเงิ น ด อ ก เ บี้ ย ซะส่วนใหญ่เลยค่ะ
จึงจำเป็นอย่ างยิ่งที่คุณจะต้องรีบปรับโครงสร้างห นี้เ สียใหม่เมื่อเข้าปีที่ 4
โดยมีวิ ธีปรับลดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย 2 วิ ธีดังนี้ คือ
– Refinance (การรีไฟแนนซ์) คือ การย้ ายห นี้จากธนาคารเดิมของคุณไปยังธนาคารใหม่
ซึ่งธนาคารใหม่จะเสนอ ด อ ก เ บี้ ย ในอัตราที่ถูกลงให้กับคุณเพื่อจะให้คุณสามารถปิดห นี้ได้เร็วขึ้น
– Retention (การรีเทนชั่น) คือ การขอลดอัตรา ด อ ก เ บี้ ย กับธนาคารเดิมที่คุณผ่อนชำระอยู่
เพื่อให้ ด อ ก เ บี้ ย ในการผ่อนชำระลดลง หรือเท่ากับปีก่อน ๆ ที่เคยผ่อนชำระมา
คุณมีสิทธิ์เลือกว่าจะทำการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่หรือทำการรีเทนชั่นกับธนาคารเดิมก็ได้
ตามที่เหมาะกับคุณ ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะมีข้อดีข้อเสี ยต่างกัน อย่ างเช่น
การรีไฟแนนซ์นั้น อาจจะทำให้ ด อ ก เ บี้ ย ของคุณถูกลงกว่าธนาคารเดิมมาก
แต่คุณจะต้องเตรียมเอกส ารใหม่ทั้งหมด
และต้องใช้เวลาในการอนุมัติอีกด้วยและอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นมา ส่วนการรีเทนชั่น
นั้นไม่ต้องยุ่งย ากในการเตรียมเอกส าร
เพราะธนาคารเดิมของคุณมีข้อมูลอยู่แล้ว การพิจารณา อนุมัติเร็วหากคุณเป็นลูกค้าชั้นดี
คือจ่ายเงิ นตรงตามจำนวนและเวลาที่กำหนดตลอด
แต่อัตรา ด อ ก เ บี้ ย ก็จะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
และมีค่าธรรมเนียมอีกด้วย
5. ไม่สร้างห นี้เพิ่ม
นอกเหนือจากการพย าย ามผ่อนเพื่อลดเงิ นต้นลดเงิ นด อ กของคุณแล้ว
คุณต้องมีวินัยในการใช้จ่าย
ด้วยการไม่สร้างห นี้ใหม่ให้เกิดขึ้นเป็นยังไงกันบ้างค่ะพอจะทราบวิ ธีปลดห นี้
บ้านของคุณให้หมดเร็ว ๆ กันบ้างแล้วใช่ไหมคะ
ดังนั้นหากคุณวางแผนการเ งินและค่าใช้จ่ายของคุณดี ๆ
ก็สามารถทำให้ห นี้บ้านของคุณหมดเร็วขึ้นนะคะ
5. ติ ดตามโปรโมชั่นของธนาคารเรื่อย ๆ
ให้คุณห มั่นติ ดตามข่าวส ารของธนาคารที่ตนเองมีสินเชื่ออยู่หรือธนาคารอื่น ๆ
ที่เสนอ ด อ ก เ บี้ ย ที่ถูกลง
ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีโปรโมชั่นบ้านต่างกันไปหากเงื่อนไขของธนาคารนั้น ๆ
ตรงกับคุณสมบัติของคุณ
ก็เป็นโอกาสดีที่จะทำให้คุณผ่อนบ้าน
ในอัตรา ด อ ก เ บี้ ย ที่ลดลงได้
ขอบคุณที่มา : 108resources