Home ข้อคิดสอนใจ ขั้ น ต อ น การ เลี้ยง ลู ก ให้แข็ง แ ก ร่ ง อ ย่ า ง น ก อินทรีย์

ขั้ น ต อ น การ เลี้ยง ลู ก ให้แข็ง แ ก ร่ ง อ ย่ า ง น ก อินทรีย์

นกอินทรีย์ ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งนก” ที่มีความสง่างามและดูน่าเกรงขาม

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า กว่าจะมาเป็นนกอินทรีย์ผู้น่าเกรงขาม

 

ต้องผ่ านอะไรมาบ้าง ลองมาดูวิ ธีการเลี้ยงลูกแบบนกอินทรีย์รังนก

เป็นสิ่งสำคัญ ก่อนวางไข่ ทั้งพ่อนกและแม่นกอินทรีย์จะช่วยกัน

 

สร้างรังให้ลูก ๆ อยู่ บนหน้าผาสูงชัน หลีกเลี่ยงการถูกรบกวน

ซึ่งพวกมันจะสร้างรังถึง 5 ชั้น

 

ชั้นแรก แม่นกจะวางก้อนหินใหญ่ๆ

ล้อมกรอบขนาดพอดีตัว

 

ชั้นที่ 2 จะเป็นท่อนไม้โต ๆ

ไขว้กันไว้ เพิ่มความแข็งแรงให้รัง

 

ชั้นที่ 3 จะเป็นกิ่งไม้ที่มีหนามขนาดใหญ่

วางซ้อนกันไปมาต่อจากกิ่งไม้

 

ชั้นที่ 4 จะเป็นใบไม้หนา ป้องกันหนามชั้นด้านล่าง

และเป็นพื้นให้นอนได้

 

ชั้นที่ 5 แม่นกจะจิกขนอ่อนใต้ปีกตัวเอง

ทำเป็นที่นอนนุ่ม ๆ ให้กับลูก ๆ

 

และเมื่อถึงเวลาที่ลูกนกพร้อมเติบโต ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

แม่นกจะเริ่มพาลูกฝึกบิน

 

ขั้นตอนการฝึกลูกนกอินทรีย์

1. แม่นกจะจิกขนนุ่มบนรังออก

เพื่อที่ลูกนกจะไม่ได้นอนสบายเหมือนเดิม ให้ลูก ๆ

ได้เรียนรู้ถึงความลำบากทีละน้อย ให้ลูก ๆ เริ่มปรับตัว

 

2. เมื่อลูกเริ่มชินกับการนอนบนพื้นใบไม้

แม่นกจะเอาใบไม้ออกจากรังจนหมด แล้วเหลือชั้นกิ่งไม้ที่มีหนาม

ลูกนกจะถูกหนามทิ่งแ ทงตลอดเวลาที่ขยับตัว

 

แต่วิ ธีนี้จะทำให้ลูกนกรู้จักฝึกความอดทนให้มีความแข็งแกร่ง

รวมถึงการระมัดระวั งตัวอยู่ตลอดเวลาแม้ตอนจะนอน

 

3. จากนั้นแม่นกจะเอากิ่งไม้ที่มีหนามออก

คราวนี้ลูกจะไม่มีที่นอน แล้วต้องเริ่มเรียนรู้ในการใช้ขาเกาะกิ่งไม้ท่อนใหญ่ ๆ

ให้ลูกนกสามารถหลับได้โดยเกาะกิ่งไม้นอน

 

และยังเป็นการฝึกกล้ามเนื้ อขาให้แข็งแรง

เพื่อในอนาคตจะใช้ในการ ล่ า เ ห ยื่ อ

 

4. ขั้นต่อมา แม่นกก็จะเอากิ่งไม้ออก

เหลือไม้แค่ฐานที่เป็นก้อนหิน ลูก ๆ จะต้องใช้

ความอดทนที่สูงมาก เพราะในหน้าร้อน

 

หินจะร้อนเหมือนไฟเผา หน้าหนาวก็จะเย็นยะเยือก

เรียกว่าต้องใช้ความอดทนขั้นสุด

 

5. สุดท้ายจะเป็นการฝึกบิน

เมื่อลูกนกปีกแข็งแรงพอ แม่นกจะคาบลูกทีละตัว

พาบินไปบนท้องฟ้าให้ลูกนกได้คุ้นชินกับอากาศ

และความสูงที่ไม่เคยเจอ แล้วก็พากลับรัง

 

การฝึกบินของลูกนกอินทรีย์

เมื่อถึงเวลาฝึกบินแบบจริงจัง แม่นกจะไม่คาบลูกบินแล้ว

แต่จะกางปีกลงไปที่รัง แล้วให้ลูก ๆ นั่งที่ปีกของแม่นกแทน

 

แล้วแม่นกจะพาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็พากลับรังสเต็ปต่อมา

แม่นกจะพาบินไปอย่ างรวดเร็ว และเริ่มพาบินขึ้นไปสูงเรื่อย ๆ

 

จากนั้นแม่นกจะสลัดปีกตัวเองอย่ างแรง จนลูกนกลอยอยู๋บนอากาศ

แล้วดิ่งสู่พื้นอย่ างรวดเร็วในขณะที่ลูกนกก็ร้อง และพย าย ามจะกางปีก

 

เพื่อช่วยเหลือตัวเอง แต่เมื่อใกล้จะถึงพื้น แม่จกอินทรีย์จะรีบบินมารับลูกก่อน

ถึงพื้นได้อย่ างแม่นยำ จากนั้นก็รับลูกกลับรัง ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทุ กตัว

 

แม่นกอินทรีย์จะฝึกลูก ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าลูกนกจะกางปีก

และบินได้เอง และเมื่อถึงวันที่ลูกนกบินได้

 

หน้าที่ของพ่อแม่นกอินทรีย์ก็เป็นอันสิ้นสุด ส่งลูกไปได้สำเร็จ

ขนาดนกอินทรีย์ยังต้องฝึกลูกให้มีความอดทน

ให้ช่วยเหลือตัวเองได้ แล้วคุณล่ะ

 

อย ากจะเลี้ยงลูกให้เป็นแบบไหน คุณอย ากจะเลี้ยงลูกให้สบายที่สุด

หาทุ กอย่ างที่ลูกต้องการประเคนให้ เพราะไม่อย ากจะให้ลูกลำบาก

หรือปล่อยให้ลูกเผชิญกับความลำบากด้วยตัวเอง

 

ให้เขาเข็มแข็งและมีภูมิคุ้มกัน ส่วนคุณก็คอยดูอยู่ห่าง ๆ

สุดท้ายแล้วพ่อแม่ก็ไม่สามารถอยู่ดูแล

 

และปกป้องลูกไปได้ตลอดชีวิต ลูก ๆ ต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยตัวเอง

ดังนั้นคุณอย ากจะเห็นลูกเป็นแบบไหน ก็อยู่ที่คุณเลือกว่าจะเลี้ยงดูเขาแบบไหน

 

ขอบคุณที่มา : 108resources

Comments are closed.

Check Also

แนวคิด10 ข้อ สอนลูกให้ได้ดี เติบโตไปจะได้ไม่ลำบาก

เรื่องราวสอนใจ เผิงลี่หยวน เธอได้แสดงความคิดเห็น กับเรื … …