1. มีความเ สี่ยงที่จะไม่ได้เงิ นคืนหากแบงค์ล้ ม
เราเชื่อว่าฝากเงิ นไว้กับธนาคารไม่ต้องกลัวเงิ นต้นหาย แต่ในความเป็นจริง
ถ้าแบงค์เกิดเจ๊งขึ้นมาอย่ างเช่นในปี 40เราจะเอาเงิ นคืนจากใคร
หลายคนบอกว่ามีพ ระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเงิ นฝากยังไงก็ได้คืนทั้งหมด
มันใช่!!! ถ้าเป็นเมื่อก่อน แต่ปัจจุบันพ ระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเงิ นฝาก
ไม่ได้คุ้มครองเงิ นเต็มจำนวนอีกต่อไป โดยวงเงิ นคุ้มครองจะค่อย ๆ ลดลง
2. ความฝันต่าง ๆ อาจจะไม่เป็นความจริง
ทุ กคนมีความฝันของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเกษียณก่อนกำหนด เที่ยวรอบโลก
มีบ้านหลังใหญ่ ส่งลูกเรียนเมืองนอกความฝันเหล่านี้จะเป็นจริง
ได้จำเป็นต้องใช้เงิ นจำนวนมาก หลายคนคิดว่าพย าย ามเก็บเ งินให้ได้มากที่สุด
เพื่อที่จะเอาเงิ นไปทำฝันให้เป็นจริงในวันข้างหน้า
แต่การทำเช่นนี้อาจทำให้ความฝันเป็นจริงได้ย ากมากหรือไม่มีวันเป็นจริงเลย
จากเรื่องเงิ นเฟ้อในข้อแรก เราจะเห็นว่าฝากเงิ นในแบงค์
ยิ่งทำให้มูลค่าเงิ นลดลงทุ กวัน เก็บเท่าไหร่ก็ไม่พอค่าใช้จ่ายอยู่ดี
ดังนั้นควรแบ่งเงิ นไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับเรา
และนำผลตอบแทนไปทำความฝันให้เป็นจริงในวันข้างหน้า
3. เสี ยโอกาสในการให้เงิ นทำงานแทนเรา
ข้อดีของเงิ นฝากคือ สามารถเปลี่ยนเป็นเงิ นสดมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
และย ามฉุกเ ฉินได้ทันที (ไม่รวมเงิ นฝากที่มีเงื่อนไขพิเศษ)
แต่การฝากเงิ นมากเกินความจำเป็นทำให้เราเ สียโอกาสนำเงิ นส่วนเกินไป
ลงทุนสร้างผลตอบที่ดีให้กับเราในอนาคตหลายคนกลัวคำว่าลงทุน
เนื่องจากมีความไม่แน่นอนและอาจข าดทุนได้ แต่จากสถิติพบว่าการลงทุน
ในระยะเวลาที่ย าวนานขึ้นโอกาสข าดทุนก็จะน้อยลงตามไปด้วย
ดังนั้นยิ่งเริ่มลงทุนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเวลาลงทุนนานขึ้น
โอกาสข าดทุนน้อยลง และเงิ นสามารถทำงานสร้างรายได้แทนเราได้นานขึ้นด้วย
4. ยิ่งฝากนานเงิ นยิ่งหาย
จากความเชื่อที่ว่าฝากแบงค์เงิ นต้นไม่หาย แถมได้ด อกเบี้ยสบาย เรื่องนี้มันถูกแค่ครึ่งเดียว
เพราะเงิ นต้นไม่หายแต่มูลค่าเงิ นลดลงตลอดเวลาเนื่องจากเ งินเฟ้อ
แล้วเงิ นเฟ้อคืออะไร??? เงิ นเฟ้อก็คือ ภาวะที่ราคาของสินค้าต่าง ๆ สูงขึ้นทำให้มีเงิ น
เท่าเดิมแต่ซื้อสินค้าได้น้อยลง หรือสรุปง่าย ๆ คือมีเงิ นเท่าเดิม
แต่มูลค่าของเ งินลดลง เงิ นเฟ้อเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ประมาณ 3%แต่ด อกเบี้ยเงิ นฝากทั่วไป
ในปัจจุบันมักจะต่ำกว่า 3% เมื่อหักลบกันแล้ว มูลค่าของเงิ นก็ยังคงน้อยลงอยู่ดี
ขอบคุณที่มา : lifein-hug