1. มองหาโอกาส
ปัญหา มันมาเต็มอยู่แล้วค่ะ คุณไม่ต้องคิดย้ำ พูดถึง หรือหาเพิ่มอีกสิ่งสำคัญคือ
การตั้งคำถามกับตัวเองให้ถูกต้อง
“ทางออกคืออะไร?”
“พอจะมีโอกาสอะไรใหม่ ๆ บ้ างไหม?”
“ใครพอจะช่วยเราได้บ้ าง?”
“ถ้าเป็น (ชื่อคนที่คุณนับถือ) เค้าจะทำยังไงนะ?”
ช่วงนี้คุณอาจต้องพกปากกากับกระดาษไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียกับคนอื่นหากปัญหา
มารุมเร้ า คุณพร้อมกันมีกูรูหลายท่านบอกให้ค่อย ๆ แก้ทีละปัญหาค่ะ
2. ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด
ปัญหาบางอย่ างมันจะคลี่คลายด้วยตัวมันเองค่ะ เป็นเรื่องแปลก .. แต่จริง
ขอเพียงคุณรู้ว่าจะต้องทำอะไรและตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่
ของคุณให้ดีที่สุดหากคุณมีทางแก้ปัญหาก็ลงมือทำในสิ่งที่คุณคิดว่าจะช่วยแก้ได้
ที่สำคัญคือ ไม่นอนเฉย ๆ รอปาฏิหาริย์ (เพราะมันอาจจะมาช้าไป)
3. ทำส มองให้ปลอดโปร่ง
งานวิจั ย บอกไว้ว่าเวลาที่คุณ มีความสุข คิดบวก หรือผ่ อนคลายส มองคุณ
จะทำงานได้ดีที่สุดคุณจะมีไอเดีย
และคิดหาทางออกได้เต็มไปหมดสังเกตเวลาที่คุณอาบน้ำ เล่นกีฬา
ขับรถทางไกลความคิดดี ๆ จะแว่บมาตอนนั้นเสมอ
ผิดกับตอนที่คุณซึมเศร้าและเครี ย ด ส มอง คุณจะตีบ ไร้ซึ่งไอเดียสร้างสรรค์
นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่คนซึ ม เศร้ า หนักมักจะคิด ฆ่ า ตั ว ต า ย
เพราะคิดหาทางออกไม่เจอ
นั่งจับเจ่าคร่ำเครี ย ด ไปก็ไม่ช่วยค่ะ ลุกไปทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้ส มองคุณผ่ อนคลาย
และช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
สุดท้ายแล้ว
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ ทุ กคนต่างมีเส้นกราฟขึ้นลงเป็นของตัวเอง
ดังนั้น เมื่อช่วงขาลงจงให้กำลังใจตัวเองและ ถ้าถึงช่วงขาขึ้นอย่ าลืม
เผื่อแผ่ พลั ง ใจแ ก่ผู้อื่นด้วยค่ะมันสำคัญมากจริง ๆ
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung