Home เกร็ดความรู้ ไม่จด ท ะ เ บี ย น ส ม ร ส เลิกกันลูก เป็นของใคร

ไม่จด ท ะ เ บี ย น ส ม ร ส เลิกกันลูก เป็นของใคร

ในความเป็นจริงแล้ว ลูกควรได้อยู่กับใคร และใครมีสิทธิในตัวลูก

ต้องย้อนกลับไปว่าพ่อกับแม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกันหรือไม่

 

เพราะหากเลิกกันจะมีข้อกฎหมายที่ระบุสิทธิว่าใครจะได้ลูกไปอยู่ด้วย

ซึ่งในกรณีพ่อแม่เลิกกันแต่ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ลูกเป็นของใคร

 

อย ากให้หลๅย ๆ ครอบครัวที่กำลังประสบกับเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันนี้

ได้ศึกษาข้อกฎหมายให้ละเอียด เพื่อจะได้ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการที่

ต กลงเจรจากันไม่ลงตัว

 

เพราะอย่ าลืมว่าถึงแม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ก็ต้องดูแลลูกร่วมกัน

ที่ถึงแม้ว่าลูกจะต้องไปอยู่กับฝ่ๅยใดฝ่ๅยหนึ่งก็ตามแต่

เพราะท้ายที่สุดแล้วความเป็นพ่อแม่

 

ก็ยังคงต้องทำหน้าที่มอบความรัก ความอบอุ่นให้ลูกกันอยู่ต่อไปค่ะ

ย ามที่รักกันต่อให้มีเรื่องผิดใจกัน มากแค่ไหนก็อภั ยกันได้

แต่ย ามที่หมดความอดทน

 

หมดรักซึ่งกันและกัน ต่อให้เอาความดีที่เคยมีให้กัน มาตั้งแต่เริ่มแรก

ก็ไม่สามารถดึงสติให้กลับมาประนีประนอ มกันได้อีก เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

กับหลๅย ๆ คู่ชีวิตในสังคมปัจจุบันนี้ค่ะ

 

เพื่อให้ทุ กคนได้เข้าใจกันอย่ างถูกต้อง และชัดเจนในข้อกฎหมาย

ผู้เขียนขออนุญาตหยิบยกความรู้ในเรื่องนี้มาให้ทำความเข้าใจกัน ตามนี้ค่ะ

 

1. ฝ่ๅยชายมีสิทธิในตัวเด็ กมากน้อยเพียงใด ?

ฝ่ๅยชายเป็นบิดานอกกฎหมาย หญิงเป็น มารดาชอบด้วยกฎหมายของบุตรเสมอ

ชายต้องการที่จะมีความสัม พันธ์กับบุตรในทางกฎหมายต้องขอให้

ศาลมีคำสั่งว่า เ ด็ กเป็นบุตร

 

ต้องดูว่าบุตรมีอายุเท่าใด สามารถให้ความยินยอ มได้หรือไม่ หากอายุยังน้อยไม่ถึง 8 -9 ปี

ก็ให้ศาลมีคำสั่งได้ ต่อไปก็ค่อยขอเป็นผู้ใช้อำนๅจปกครองแต่เพียงผู้เดียวได้

ส่วนศาลจะพิจารณาอย่ างไรก็ มาตรา 1546

 

เด็ กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชายให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น

เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่ างอื่น มาตรา 1547 เด็ กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้

สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย

 

ต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร

หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร มาตรา 1548 บิดาจะจดทะเบียนเด็ กเป็นบุตรชอบ

ด้วยกฎหมายได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอ มของเด็ กและมารดาเ ด็ก

 

ในกรณีที่เด็ กและมารดาเด็ กไม่ได้มาให้ความยินยอ มต่อหน้านายทะเบียน

ให้นายทะเบียนแจ้งการขอจดทะเบียนของบิดาไปยังเด็ กและมารดาเ ด็ก

ถ้าเด็ กหรือ มารดาเด็ กไม่คัดค้านหรือไม่ให้ความยินยอ มภายในหกสิบวัน

 

นับแต่การแจ้งนั้นถึงเด็ กหรือ มารดาเ ด็ก ให้สันนิษฐานว่าเด็ ก หรือ มารดาเด็ ก

ไม่ให้ความยินยอ ม ถ้าเด็ กหรือ มารดาเด็ กอยู่นอกประเทศไทยให้ขย ายเวลานั้น

เป็นหนึ่งร้อยแปดสิบวัน

 

ในกรณีที่เด็ กหรือ มารดาเด็ กคัดค้านว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่ใช่บิดา หรือไม่ให้ความยินยอ ม

หรือไม่อาจให้ความยินยอ มได้ การจดทะเบียนเด็ กเป็นบุตรต้องมีคำพิพากษาของศาล

 

เมื่อศาลได้พิพากษาให้บิดาจดทะเบียนเด็ กเป็นบุตรได้ และบิดาได้นำคำพิพากษา

ไปขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียน ให้นายทะเบียนดำเนินการจดทะเบียนให้

 

2. ฝ่ๅยชายสามารถนำเด็ กมาเลี้ยงไว้เองได้หรือไม่ ?

เมื่อ มารดาเป็น มารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย บิดาเป็นบิดานอกกฎหมาย

ดังนั้น มารดาจึงเป็นผู้ใช้อำนๅจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว

มีสิทธิที่จะกำหนดที่อยู่ของบุตร

 

และสิทธิที่จะเรียกบุตรคืนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิที่จะกักบุตรไว้ ซึ่งรวมถึง

บิดานอกกฎหมายด้วย มาตรา 1566 บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้

อำนๅจปกครองของบิดามารดา

 

อำนาจปกครองอยู่กับบิดาหรือ มารดาในกรณีดังต่อไปนี้

(1) มารดาหรือบิดาตๅย

(2) ไม่แน่นอนว่ามารดาหรือบิดามีชีวิตอยู่หรือตๅย

 

(3) มารดาหรือบิดาถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

(4) มารดาหรือบิดาต้องเข้ารั กษาตัวในโรงพย าบาลเพราะจิ ตฟั่ นเฟือน

 

(5) ศาลสั่งให้อำนๅจปกครองอยู่กับบิดาหรือ มารดา

(6) บิดาและมารดาต กลงกันตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ต กลงกันได้

 

มาตรา 1567 ผู้ใช้อำนาจปกครองมีสิทธิ

(1) กำหนดที่อยู่ของบุตร

(2) ทำโ ทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน

 

(3) ให้บุตรทำการงานตามสมควรแ ก่ความสามารถและฐานานุรูป

(4) เรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่นซึ่งกักบุตรไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

 

3. ฝ่ๅยหญิงเรียกร้องอะไรจากฝ่ๅยชายได้บ้าง ?

หากฝ่ๅยหญิงต้องการให้ฝ่ๅยชายจดทะเบียนรับรองบุตร ย่อ มมีใช้สิทธิในฐานะทาย าท

โดยธรรมของบุตรฟ้องบิดาให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้

 

เพราะหน้าที่บิดาชอบด้วยกฎหมายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตร

และให้การศึกษาแ ก่ผู้เย าว์ตามฐานะของบิดามารดา มาตรา 1564 บิดามารดา

 

จำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแ ก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เย าว์

บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว

แต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้

 

ขอบคุณที่มา : thatlikegood

Comments are closed.

Check Also

แนวคิด10 ข้อ สอนลูกให้ได้ดี เติบโตไปจะได้ไม่ลำบาก

เรื่องราวสอนใจ เผิงลี่หยวน เธอได้แสดงความคิดเห็น กับเรื … …