1. ชำระห นี้ให้ตรงเวลา
ควรชำระห นี้ให้ตรงตามกำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม
การติ ดตามทวงถาม หากลืมชำระ หรือชำระล่าช้าซึ่งจะเกิดค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
นอกเหนือจากด อกเบี้ย
และค่าธรรมเนียมของยอดห นี้ที่จะต้องถูกเรียกเก็บอยู่แล้วนอกจากนี้ถ้าจ่ายตรง
ตามกำหนด มีประวัติการจ่ายชำระดี อาจจะได้รับการพิจารณา
ปรับลดด อกเบี้ย หรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ จากเจ้าห นี้ได้
2. อย่ าสร้างห นี้ก้อนใหม่ขึ้นมาอีก
ถ้าหากห นี้ก้อนเดิมยังชำระไม่หมด และยังเป็นภาระอยู่ก็อย่ าสร้างห นี้ก้อนใหม่
เพิ่มเติม นอกเสี ยจากว่าจะนำห นี้ก้อนใหม่
มาจ่ายห นี้ก้อนเก่าให้หมด โดยห นี้ก้อนใหม่จะต้องมี ด อกเบี้ยที่ถูกกว่าเท่านั้น
3. รู้จักประหยัด และลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
การรู้จักประหยัดและเลือกใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็น จะทำให้เรามีเงิ นเหลือเพิ่ม
ในกระเป๋าได้และควรจะเลิกหรือลดการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย
เช่น การซื้อเสื้อผ้าแพง ๆ การกิน ดื่ม เที่ยว เป็นต้น
4. ชำระห นี้ก้อนที่มี ด อกเบี้ยสูงที่สุดก่อน
การชำระห นี้ก้อนที่มี ด อกเบี้ยสูงที่สุดก่อน จะทำให้หลุดพ้นการเป็นห นี้ได้เร็วขึ้น
เพราะเมื่อเงิ นต้นเหล่านี้ลดลง ด อกเบี้ย
ที่จ่ายก็ลดลงและถ้าหากมีห นี้นอกระบบร่วมด้วย ต้องรีบพย าย ามหาวิ ธีปิดห นี้นอกระบบ
นั้นให้หมดโดยเร็วเป็นอันดับแรกเพราะด อกเบี้ยสูงกว่าห นี้ประเภทอื่น
5. จัดการรวมห นี้ทั้งหมดให้เป็นก้อนเดียว
เพื่อหลีกเลี่ยงการที่มีใบเรียกเก็บยอดเล็ก ๆ น้อย ๆ หลาย ๆ ใบ ในแต่ละเดือน
ทำให้เราต้องเสี ยค่าธรรมเนียมการชำระเ งิน
ตามแต่ละช่องทางจำนวนหลายครั้งซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นอีก ทั้งรวมห นี้ทั้งหมด
ให้เป็นก้อนเดียวจะช่วยให้เราบริหารจัดการห นี้ได้ง่ายกว่า
6. ชำระห นี้ให้มากกว่ายอดเรียกเก็บเงิ นขั้นต่ำ
ในแต่ละเดือนจะมีการเรียกเก็บเ งินจากเจ้าห นี้ต่าง ๆ ซึ่งเราจะต้องชำระห นี้
อย่ างน้อยที่สุดตามยอดเรียกเก็บขั้นต่ำ หากคำนวณแล้วพบว่า
สามารถชำระห นี้ขั้นต่ำได้ครบทุ กใบ และยังพอมีเงิ นเหลือควรนำเ งินส่วนนั้นไป
จ่ายชำระห นี้ให้มากกว่ายอด
เรียกเก็บขั้นต่ำเพราะเงิ นที่จ่ายชำระส่วนเพิ่มขึ้นนั้น จะทำให้ยอดเงิ นต้นลดลง
ด อกเบี้ยน้อยลง และหมดห นี้ไวขึ้น
ขอบคุณที่มา : create-readingth