1. ลูกเล่นกับใครบ้างในวันนี้
สำคัญมาก เพราะเราจะได้รู้ว่า ความสัมพันธ์ กับเพื่อนในโรงเรียนเป็นยังไง
เขาสามารถปรับตัวได้ไหมลูกเราอยู่ร่วมกับคนอื่นได้หรือไม่
แต่หากลูกเล่นคนเดียว ไม่มีคนเล่นด้วยแปลว่าเริ่มมีปัญหาแล้วจะต้องหาวิ ธีแก้
ให้ลูกตัวเข้ากับคนอื่นได้ ควรจะถามลูกบ้างนะ
2. อะไรที่ลูกไม่ชอบของวันนี้
พ่อแม่หล า ยท่านอาจไม่ชอบ คำถามนี้แต่ก็ต้องถามลูกเขาจะได้ระบายให้เราฟัง
และเราเองจะได้รู้ว่าลูกไม่ชอบอะไร เราเองจะได มาปรับ
การสอนให้เข้ากับเขาได้ และมันไม่จำเป็นจะต้องถามข้ อนี้ทุ กวันก็ได้
อาจจะเลือ กวันที่เหมาะ ๆ และลองสังเกตลักษณะลูกก่อนก็ได้หากรู้สึกว่า
ไม่ร่าเริงเท่าไหร่ ค่อยคิดข้ อนี้ต ามมาแล้วกัน
3. ที่โรงเรียน มีงานอะไรที่จะมาถึง
เป็นการเตื อนความจำให้กับลูกทำให้ลูกไม่ลืมกิจก ร ร มต่าง ๆ ที่ใกล้เข้ามาซึ่งบางทีลูกเอง
ก็ไม่ได้สนใจกิจก ร ร มต่าง ๆ ที่ได้รับมานักหรอ ก
อาจจะทำให้ลืมบอ กเราได้หากถามเช่นนี้จะช่วยกระตุ้ นให้ลูกจำได้ ว่ามีกิจก ร ร ม
อะไรเกิดขึ้นบ้างเราจะได้เตรียมการได้
4. ลูกทานข้าวกับใครวันนี้
อย ากให้ลองฟังลูก เพราะไม่แน่คำตอบ แต่ละวันจะเปลี่ยน ถ้าลูกนั่งทานข้าวกับคนเดิม ๆ
คืออาจจะมีเพื่อนที่สนิทแล้ว แต่ถ้าไม่ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
ก็อ ย่ าลืมถามถึงชื่อเพื่อนคนเก่าว่าเพราะอะไรจึงไม่นั่งกับเขาแล้ว ซึ่งก็ต้อง คอยดูเหตุผล
ที่ลูกตอบซึ่งจะทำให้เรารู้ ว่าลูกเข้ากับทุ กคนได้ง่ายหรือไม่ หรือไม่มีใคร
อย ากจะนั่งด้วย หากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องช่วย หาทางแก้ต่อไป
5. คุณครูเป็นยังไง
เป็นการถามความรู้สึกที่ลูกเรามีต่อครูของเขาให้ลูกพูดถึงครูทุ กคนที่ลูกอย ากจะพูดถึงได้แล้ว
ก็ลองสังเกตอาการเมื่อเวลาที่ลูกตอบคำถาม ดูแววต า
สดใสร่าเริงก็แสดงว่ายังโอเคกับคุณครูคนนั้นอยู่แต่หากออ กอาการเหมือนจะไม่อย ากเล่า
ควรจะถามว่าลูกกำลังมีอะไรอยู่ไหมหากเราทราบปัญหา จะได้หาวิ ธีจัดการ ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ปล่อยไว้ อาจจะเป็นภั ยต่อเ ด็ ก
6. ชอบอะไรของวันนี้
ลอง ถามว่าชอบอะไรมากที่สุดในวันนี้ซึ่งให้ลูกได้ตอบถึงสิ่งที่เขาชอบที่เจอมาลูก
จะได้คิดก่อนว่าเขาตอบอะไรได้บ้าง และก็ควรจะตั้งใจฟังลูกด้วย
ในสิ่งที่เขาตอบเรามันจะบอ กได้ว่าลูกชอบอะไรชอบแบบไหนยังไง
ลูกทำกิจก ร ร มอะไรมาบ้างในเวลาที่อยู่ที่โรงเรียน
7. กิจกร รมที่โรงเรียนย ากหรือง่ายล่ะ
เมื่อเราถามเช่นนี้ เพื่อจะให้เขาได้เล่าถึงว่าในแต่ละวันเขาได้เรียนรู้อะไรทั้งการเรียน
กิจก ร ร มแล้วยังจะได้รู้ว่าลูกชอบอะไร ถนัดอะไรและไม่เก่งในด้านใดบ้าง
เราจะได้ช่วยได้วางแผนได้ถูก
ขอบคุณที่มา : deejaiplus