1. นิสัยไร้สติ
เข้าใจค่ะ ว่าเดี๋ยวนี้เงิ นมันหลุดลอยออกจากกระเป๋าง่ายขนาดไหนคิดดู
ขนาดนอนเล่นมือถืออยู่ บ น เ ตี ย ง เพลิน ๆ
ก็มี โ ฆ ษ ณ า เด้งขึ้นมา เผลอแป๊ปเดียวก็เสี ยเ งินให้ร้านค้าออนไลน์ไปซะอย่ างงั้น
ก็ยุคนี้จะซื้อจะขายอะไรก็ง่ายไปหมด สั่งปุ๊ป โ อ น ปั๊ป พรุ่งนี้ก็รอของมาส่งหน้าประตูบ้าน
เรียกได้ว่ามีเรื่องชวนเสี ยเงิ นได้ทุ กที่ ทุ กเวลา ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือ ต้องพก “สติ”
เอาไว้ทุ กที่ ทุ กเวลาเช่นเดียวกันค่ะ
จะเสี ยเ งินให้กับอะไรถามตัวเองก่อนว่าสิ่งนี้แค่ “ต้องการ (Want)” หรือ
“จำเป็น (Need)” ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้อีก
ก็ให้ลองขั้นต่อไปด้วยการใช้ “กฏ 48 ชั่ ว โมง” วิ ธีก็คือเมื่อเราคิดจะเ สียเงิ นกับอะไรก็ตาม
ให้ปล่อยเวลาผ่ านไปอย่ างน้อย 48 ชั่ ว โมงเสี ยก่อน หลังจากนั้นค่อยกลับมาถามตัวเอง
อีกครั้งว่าเราอย ากได้มันจริง ๆ หรือไม่ ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ก็ลุยได้เลยค่ะ ไม่ว่ากัน
แต่ก็จัดระดับความสำคัญด้วยว่าเงิ นส่วนไหน ควรใช้ก่อน ใช้หลัง จะได้ไม่ต้องมา
พังเอาตอนปลายเดือนน้อ อิอิ
2. นิสัยขยันสร้างห นี้
นิสัยนี้เป็นบ่อเกิดของความล้ มเหลว ทางการเงิ นที่แท้จริงค่ะ ! เคยได้ยินกันมั้ยคะว่า
“การไม่มีห นี้ เป็นลาภอันประเสริฐ”
บอกเลยว่าไม่ได้เว่อร์ ความจริงล้วน ๆ พอเถอะค่ะ นิสัยที่ชอบเอาเงิ นในอนาคตมาใช้
อย่ างการรูดปรื๊ด ๆ เก็บแต้มบัตรเครดิต กันระรัว
สุดท้ายลมจับ ล้ มตึงตอนสิ้นเดือนเมื่อเห็นใบแจ้งห นี้ ต้องลำบากไปรูดใบนู้น มาโปะใบห นี้
เป็นห นี้วนไปวนมา ไม่รู้จบหรือต้องไปหยิบยืม เงิ นจากครอบครัว
หรือคนใกล้ตัวให้คนอื่นเค้าลำบากใจ พอถึงเวลาใช้คืนไม่ได้ พาลจะเสี ยมิตรภาพและ
ความรู้สึกดี ๆ ที่สะสมมานานเป็นแบบนี้มีแต่พังกับพัง ได้ไม่คุ้มเสี ยหรอกค่ะ
ฉะนั้นก่อนจะเป็นห นี้ คิดทบทวนให้ดี ๆ ก่อน ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็ห้ามเป็นห นี้
จะดีที่สุด ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
3. นิสัยไม่วางแผน
ทุ ก ๆ เรื่องจะง่ายขึ้นเมื่อมีการ “วางแผน” ค่ะ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการใช้เ งิน หากเรา
วางแผนการใช้เงิ นที่เหมาะสม
กับตัวเราไว้ก่อนแล้ว และพย าย ามทำตามเเผนอย่ างมีวินัย เต็มความสามารถ
เชื่อสิว่า สุ ข ภ า พ ทางการเงิ นของคุณต้องดีขึ้นอย่ างแน่นอน ลองดูนะคะ
หาเวลาสักพัก นั่งวางแผนจริงจัง ทั้งแผนการเงิ นระยะสั้น ระยะย าว
จะช่วยทำให้เรามองเห็นภาพการใช้ชีวิตได้ชัดขึ้น
เช่น ต้องเก็บเ งินเท่าไหร่ ต้องลงทุนหรือหารายได้เพิ่มอีกมั้ย อะไรแบบนี้ ที่สำคัญข าดไม่ได้
เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนพร่ำสอนกันมา
ตั้งแต่เรายังเป็นเด็ กน้อย ( แต่ปัจจุบันผู้ใหญ่หลายคนก็ยังไม่ทำ )
นั่นก็คือ “การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย”
เพราะมันจะทำให้เข้าใจถึงสภาพการเ งิน ของเรามากขึ้น ทำให้สามารถ
วางแผนการเงิ นได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ ขอให้โ ชคดีนะคะ
4. นิสัยมีเท่าไหร่ใช้หมด
ทำไมอ่ะคะ ? กลัวเงิ นหมดอายุเหรอ ถึงเก็บไว้กับตัวนาน ๆ บ้างไม่ได้เลย ก็แหม ดูสิบางคนนะ
เงิ นเดือนออกมาที ต้องใช้ให้หมดทันที เช่นกัน แบบว่ายังไม่ทันจะกลางเดือนก็ต้องกินมาม่าซะแล้ว
สุดท้ายก็เจอปัญหาเงิ นไม่พอใช้ เดือนชนเดือนแบบนี้อยู่เรื่อยไป จนติ ดเป็นนิสัย
ทำยังไงดีล่ะ ไม่ย ากเลย ก็แค่ลองเก็บออมดูบ้าง จากเดิมพอเงิ นเดือนออกก็เอาไปใช้ให้รางวัลตัวเอง
ก็ให้ลองเปลี่ยนมาคิดว่าพอเ งินเดือนออกฉันจะให้รางวัลตัวเองด้วย “การออมเงิ น”
อย่ างน้อย 10% ของรายได้แทน ทำไปเรื่อย ๆ ค่ะ เดี๋ยวก็จะติ ดเป็นนิสัยเอง
เมื่อไหร่ที่คุณได้เห็นตัวเลขในบัญชีเงิ นเก็บ มันงอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ มันจะทำให้เห็นคุณค่าของเงิ นมากขึ้น
และจะทำให้รู้จักคิดให้ถี่ถ้วน การจะใช้เงิ นแต่ละครั้งโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่เชื่อ เดือนนี้ก็ลองเริ่มเลยสิ ขอท้า !
5. นิสัยร วย (เกินฐานะ)
หลาย ๆ คน เป็นกันมาก แต่ (แกล้ง) ไม่รู้ตัว จะอะไรซะอีก นอกซะจากการใช้เ งินเกินตัว
กินอยู่เกินฐานะยังไงล่ะ ประเภท ไลฟ์สไตล์ไฮโซแต่โลว์อินคัม รสนิยมยอดฮิตของ Gen Y
ส่วนหนึ่ง เป็นเพราะเราอยู่ในยุคที่สื่อมีอิทธิพลอย่ างมาก ในโลกโซเชี่ยลจะเห็นเน็ตไอดอล
หรือผู้มีชื่อเสี ยงต่าง ๆ ใช้ชีวิตน่าอิ จฉากินหรูอยู่สบาย เกิดเป็นพฤติกร รมเลียนแบบ
เช่น ต้องใช้ของแบรนด์เนม
ซื้อของเเพง ๆ กินร้าน อ า ห า ร สวย ๆ อัปรูปอ วดเพื่อนใน IG จนลืมประเมินเงิ นในบัญชีของตัวเองไปซะสนิท
ไม่เอานะคะ ! ปรับความคิดใหม่ ใช้จ่ายอย่ างพอเพียง อย่ าหลงติ ดกับดัก Social เพราะจริง ๆ แล้ว
ภาพที่เห็นเค้าชีวิตดี๊ดีย์ บางทีก็ไม่ใช่ทั้งหมด อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของงาน ที่ต้องอาศัยภาพลักษณ์
หรือเป็นการสร้างตัวตนในโลกโซเชี่ยล เช่นเดียวกับที่เราพย าย ามทำก็ได้ จริงมั้ย ?