พอดีไปเห็นเพื่อน ถ่ายรูปไป Party ในโรงแรม 5 ดาว ก็เลยนึกถึงว่าก่อนหน้านี้
เขามาปรึกษาเรื่องห นี้บัตรเค รดิต
ว่าจะใช้ยังไงดี? บางทีเรารู้ทั้งรู้ว่าเราใช้ชีวิตยังไงเราถึงเป็นห นี้ แต่เราก็ยังใช้ชีวิตแบบนี้กัน
อย่ างไรก็ตามการเป็นห นี้ ก็แม้จะเป็นเรื่องของเขา แต่บางเรื่องมันก็เกี่ยวกับเรา
คือเมื่อมีปัญหาก็มาบ่น มาขอความช่วยเหลือ มายืมตังไปปิดห นี้ เป็นต้น
การเป็นห นี้จึงไม่ได้เป็นภาระของคน ๆ เดียว
แต่สร้างภาระอื่น ๆ ให้คนรอบข้างได้ (เราจึงมีสิทธิ์บ่นเช่นกัน 555)
พอมันเป็นอย่ างงี้นะ เราก็เลยตั้งคำถามว่า
“ทำไมคน ถึงต้องใช้เ งินเพื่อโชว์ ไลฟ์สไตล์?”
เป็นไปได้ไหมว่าโดยทั่วไปแล้ว คนเราต้องการ
“ถูกยอมรับในสังคม”
เรื่องพวกนี้บางที เราแยกไม่ออกนะ เช่น เวลาที่เราต้องการจะซื้อกระเป๋า
หรือนาฬิกาแบรนด์เนม ซึ่งต้องจ่าย “หลักแสนบาท”
เราอาจจะบอกว่าเราซื้อ เพราะเราชอบ ซึ่งความชอบนั้นก็ไม่รู้ว่าชอบจริง ๆ
หรือต้องการบอกสังคมว่า
เราก็ชอบของแบบนี้เหมือนกันนะ อันนี้ต้องถามใจของแต่ละคนจริง ๆ
บางทีคนเราก็อย ากจะแค่ถือถุง Hermes เดินเล่นให้คนรู้สึกร วยก็มี
การถูกยอมรับ vs สถานะทางการเงิ น
การถูกยอมรับทางสังคม มันสามารถออกมา เป็นในรูปตัวเ งินได้ แต่สิทธิ
นั้นมอบให้กับเฉพาะแค่คนมีเ งิน
และแน่นอนว่า คงไม่มีใครเบิกเงิ นจากธนาคารมากองให้คนอื่นเห็นว่าเรามีตังค์
และน้อยคนคงจะเอาสมุดบัญชีธนาคาร มาถ่ายรูปให้ดูว่าฉันรว ยนะ
เพราะคนจะหมั่ น ไ ส้ ได้
สิ่งที่คนคนมักจะทำกันก็คือการโชว์ ไลฟ์สไตล์ การบริโภคต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้มันไม่ได้
ให้สิทธิเฉพาะคนร วยเท่านั้น
แต่มัน มอบสิทธิให้กับ “คนที่ไม่มีตังค์” ด้วย สิทธิดังกล่าวนั้นมาไม่ย ากเลยในสมัยนี้
แค่คุณมีบัตรเครดิต บัตรกดเ งินสดก็ได้ล่ะ เอาเงิ นอนาคตมาใช้ก่อน
แต่เขาไม่ให้ให้คุณใช้ฟรี มันมีต้นทุนที่ต้องจ่าย
อ วดเ งิน : คนร วยอ วดได้
อ วดชีวิต : คนร วย คนไม่ร วย อ วดได้หมด
จะว่าไปมันก็คือกับดั ก ของชีวิตอย่ างนึงเหมือนกันนะ และสังคมก็พากันไปในแนวนี้ซะด้วย
สมัยผมเรียนอยู่มหาลัยนะ มันก็มีการล้อกันเรื่องการใช้มือถือรุ่นถูก ๆ ทั้ง ๆ
ที่คนล้อก็ขอเงิ นแม่มาซื้อเหมือนกัน
บางคนก็เก็บตังเอง เพื่อให้ได้มือถือดี ๆ ซึ่งนี่ล่ะที่ผมถามตัวเองว่า
เรากำลังเก็บเพื่อซื้อของที่ชอบ หรือของที่จะบอกสังคมว่าเราชอบเหมือนกัน
คนที่มีเ งินและสามารถรักษ า ความสามารถทางการเงิ นได้ ผมไม่ค่อยห่วงนะ คุณจะใช้
ไลฟ์สไตล์ ยังไงก็ได้ตราบที่คุณมีเ งิน…
แต่ที่เป็นห่วงก็คือ…
1. คนที่ไม่ได้มีเงิ นแต่ใช้ ไลฟ์สไตล์ เกินตัว
2. คนที่มีเ งิน แต่ไม่รู้ว่าระยะย าวเ งินจะหมดตาม ไลฟ์สไตล์
3. คนที่กำลังโตมา โดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในวงจรของการบริโภค
นิยมและกำลังตื่นเต้นกับโลกมาย าแห่งนี้
เข้าใจยังว่าทำไมคนจำนวนมาก ยังหันหลังให้กับการออมเ งิน ผมพูดไม่ผิดหรอก
มันมีคนหันหลังจริง ๆใช้เงิ นเก่ง ผ่อนทุ กอย่ าง เพื่อให้ชีวิตดูดีในทุ กมิติ
มันจะดีมากกว่านี้ถ้าอย่ างน้อย คุณใช้ชีวิตไปด้วยและออมเงิ นไปด้วย
อันนั้นคือสิ่งที่ดี มันยังสร้างภูมิคุ้มกันในชีวิตได้ แต่ถ้าใครสามารถแยกภาพ
มาย าคติของโลกสังคมอุปโภคนิยมได้
โดยใช้ชีวิตแบบที่เราเป็นจริง ๆ ตามฐานะและสถานะที่ตัวเองเป็นได้โดยไม่ต้อง
ถีบให้ตัวเองสร้างให้ถูกการยอมรับทางสังคม อันนี้คุณหลุดพ้นกับดักแล้วมัน
จะเจอเส้นทางไปสู่ความยั่งยืนทางการเงิ นได้แล้ว
ขอบคุณที่มา : sabaidmai