หลังจากที่ทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทานเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่คนเรามักจะทำกันเป็นประจำก็คือ การกรวดน้ำ การกรวดน้ำนั้น
เป็นการสะสมผลบุญที่เราได้ตั้งใจทำบุญในครั้งนี้ส่งผลบุญที่เราได้ทำให้
กับผู้ที่เราตั้งใจจะมอบส่วนบุญกุศลไปให้ ให้มารับผลบุญที่ได้ทำ
ในการกรวดน้ำนั้นหลาย ๆ ท่านได้ทำผิดวิ ธี ทำอย่ างไม่ถูกต้องกันอยู่
วันนี้เราจึงได้นำวิ ธีการกรวดน้ำที่ถูกต้องมาฝากให้กับทุ กท่านกัน
ทำถูกก็จะทำให้บุญที่เราตั้งใจทำไปให้นั้นส่งผลบุญได้เร็ว
และทำให้ตัวเราได้รับผลบุญที่ทำมาก
วิ ธีกรวดน้ำ โดยท่านธรรมรั กษา
กรวดน้ำใช้มือขวาจับที่ภาชนะ มือซ้ายช่วยในการประคอง
แล้วรินน้ำใส่ลงไปในภาชนะที่มีไว้สำหรับการรองรับ
การกรวดน้ำนั้นจะเป็นการอุทิศส่วนบุญกุศลที่เราได้ส่งไปให้กับคนที่
เราตั้งใจจะทำบุญไปให้รินน้ำให้ไหลลงไปตามพื้นดิน
หรือใส่ลงไปในภาชนะสำหรับการรองรับแล้วนำไปเทบริเวณโคนต้นไม้ใหญ่
สำหรับการกรวดน้ำนั้นจะมี ด้วยกัน 2 วิ ธี
1. การกรวดน้ำมี 2 วิ ธี คือ
การกรวดน้ำเปียก เป็นการใช้น้ำเป็นสื่อ รินน้ำลงไปพร้อมกับ
การกล่าวอุทิศผลบุญกุศลไปด้วย
การกรวดน้ำแบบแห้ง ไม่ใช้น้ำ ใช้สิบนิ้วพนมมือ
อธิษฐานและอุทิศบุญกุศลส่งไปให้
2. การอุทิศผลบุญมี 2 วิ ธี
อุทิศแบบเจาะจง การพูดชื่อที่เราจะให้ท่านรับ
อย่ างเช่น กล่าวชื่อ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือชื่อใครก็ได้ที่เราตั้งใจจะทำบุญไปให้
อุทิศแบบไม่เจาะจง การพูด กล่าวรวมกัน
อย่ างเช่นญาติทั้งหลาย เจ้ากร รมนายเ วรทั้งหลายเป็นต้น
3. กรวดน้ำใช้น้ำเปล่าสะอาด
น้ำที่นำมาใช้สำหรับการกรวดน้ำในทุ ก ๆ ครั้งนั้น จะต้องเป็นน้ำเปล่า
สะอาดที่ไม่มีกลิ่นไม่มีสี กรวดน้ำเสร็จแล้วให้รินน้ำใส่ลงไปในที่สะอาด
4. ใช้น้ำเป็นสื่อ ดินเป็นพย าน
การกรวดน้ำนั้น ใช้น้ำเป็นสื่อและใช้แผ่นดินเป็นพย าน
ให้ได้รับรู้ ในการอุทิศส่วนบุญกุศลในครั้งนี้ที่ตัวเรานั้นได้ตั้งใจทำ
5. กรวดน้ำในตอนเวลาไหน
ทำบุญเสร็จ ควรมีการกรวดน้ำในขณะที่พ ระท่านได้กล่าวอนุโมทนา
หรือหลังจากที่เราได้ทำบุญเสร็จ หากไม่สะดวกสามารถทำได้ในภายหลัง
แต่แนะนำกันว่าให้ทำในขณะนั้นจะดี กว่า เพราะในบางทีที่เรากลับไปถึงบ้ า น
ก็เผลอลืมที่จะกรวดน้ำ ทำให้บุญที่เราตั้งใจทำเขาไม่ได้รับ ผลบุญในครั้งนี้
6. รินน้ำตอนไหน
เริ่มรินน้ำพร้อมกับตั้งใจอุทิศ ในขณะที่พ ระผู้นำเริ่มสวดว่า “ยะถาวาริวะหาปูรา”
และรินให้หมดเมื่อพ ระว่ามาถึง “มะณิโชติระโส ยะถา”
พอพ ระทั้งหมดรับพร้อมกันว่า“สัพพีติโย วิวัชชันตุ” เราก็พนมมือรับพรท่าน
ไปจนจบ จึงจะถือว่าถูกต้อง
7. ถ้ายังกล่าวบทกรวดน้ำไม่เสร็จ จะทำอย่ างไร
บทกรวดน้ำที่สั้น ๆ หรือใช้บทกรวดน้ำย่อ “อิทัง โน ญาตีนังไหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขออุทิศส่วนบุญนี้จงสำเร็จแ ก่ (พูดกล่าวชื่อผู้ล่วงลับ)
และญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุขเถิด”
หรือจะใช้แต่ภาษาไทยอย่ างเดียวก็ได้ว่า “ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้
จงสำเร็จแ ก่ พ่อ แม่ ญาติ ครูอาจารย์ ผู้มีพ ระคุณเจ้ากร รมนายเ วร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ขอจงได้รับส่วนบุญกุศลครั้งนี้โดยเร็วพลัน และโดยทั่วถึงกันเทอญ”
ส่วนบทย าว ๆ เราควรเอาไว้กรวดส่วนตัว หรือกรวดในขณะ
ทำวัตรสวดมนต์รวมกันก็ได้
8. ไม่เกาะกลุ่ม
น้ำที่อยู่ในถ้วยภาชนะ ให้เทไหลลงมาเป็นสายไม่ให้ข าด และไม่ควรใช้วิ ธี
ในการเกาะกลุ่มหากได้เป็นพิธีงานใหญ่ต่าง ๆ
ถ้าเป็นประธานรินน้ำเพียงคนเดียวหรือเป็นคู่นอกจากนั้นก็ให้พนมมือ
และตั้งใจอุทิศส่วนบุญกุศล
9. การทำบุญและอุทิศส่วนบุญ
จิตใจไม่ฟุ้งซ่านมีความเลื่อม ใ สบุ ญกุศลและการอุทิศส่วนบุญกุศลนั้น
ย่อมมีอานิสงส์ที่มากผลบุญที่เราทำไปให้หากไม่มีใครได้รับบุญที่เราได้ทำ
ก็จะยังคงเป็นบุญของเราอยู่อย่ างครบถ้วน
10. บุญเป็นของกายสิทธิ์
ยิ่งได้ให้ยิ่งมาก ยิ่งตระหนี่ยิ่งน้อย ยิ่งอุทิศให้คนอื่นหมดเลย
ทำให้ตัวเราก็ยิ่งจะได้บุญหมดเลย
ขอบคุณที่มา : postsod