หากใครมีที่ดินซึ่งเป็นของต กทอดจากพ่อแม่ ปู่ ย่ า ตา ย าย ที่เรียกกันว่ามรดกที่ดิน
หมายถึงการส่งต่อความเป็นเจ้าของให้กับลูกหลานรุ่นต่อไปหรือผู้ที่มีรายชื่อในพินัยกร รม
ที่เจ้าของที่ดินได้เขียนเอาไว้และมอบหมายให้ผู้ที่ไว้ใจดูแลจัดการเรื่องต่อไป
มรดกที่ดินโดยมากแล้วมักไม่ค่อยมีปัญหามาก หากเจ้าของที่ดินได้ทำการกำหนดเอาไว้ก่อนแล้ว
แต่หากไม่มีการวางแผนมาก่อนแล้วเจ้าของเสี ยชีวิตอย่ างกระทันหัน
ไม่ทันได้จัดการเรื่องที่ดินและทรัพย์สินที่ผู้สืบทอดมีสิทธิ์ที่จะได้รับ
ขั้นตอนการโอนมรดกที่ดินโดยที่เจ้าของมิได้เตรียมการณ์เอาไว้ควรทำอย่ างไรบ้าง
การโอนมรดกที่ดินให้กับทาย าทมีอยู่ 2 วิ ธี คือ
1. ให้ผู้ที่เป็นทาย าทติ ดต่อกับสำนักงานที่ดินโดยนำเอกส ารหลักฐานไป
เพื่อแจ้งเรื่องโอนตามขั้นตอนตามกฎหมายมรดกที่ดินต่อไป
หากไม่มีปัญหาใด ๆ ก็สามารถจัดการเดินเรื่องได้
2. ในกรณีที่ต้องไปศาลเพื่อทำการตั้งผู้จัดการมรดก ซึ่งต้องเตรียมเอกส ารหลักฐานต่าง ๆ ที่จำเป็น
เช่น โฉนดที่ดิน ใบมรณบัตรของเจ้าของเดิม และเอกส ารหลักฐานการเป็นผู้รับสิทธิมรดก
อาจเป็นภรรย าหรือลูก รวมทั้งหลักฐานพินัยกร รม (ถ้ามี) ไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่สอบสวน
เพื่อทำการเดินเรื่องขอเป็นทาย าทที่มีสิทธิรับมรดกที่ดิน โดยประกาศมรดกมีกำหนดเวลา 30 วัน
จึงถือว่าเสร็จสมบูรณ์ในกรณีที่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกมาคัดค้านเรื่อง
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดก จะต้องให้ผู้เป็นทาย าทส่งเรื่องร้องขอต่อศาล เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการจัดการมรดก
ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ในการทำเรื่องทั้งเอกส ารโฉนดที่ดิน
รวมทั้งการตรวจสอบอีกหลายขั้นตอน อาจต้องใช้เวลานาน
ทั้งนี้ หากเราเป็นเจ้าของที่ดินในครอบครองและมีลูกหลานภรรย าที่ต้องการส่งมอบให้ต่อไป
ก็จำเป็นต้องเขียนเป็นพินัยกร รมเอาไว้โดยให้ทนายเข้ามาช่วยจัดการเรื่อง
วิ ธีนี้จะทำให้การเดินเรื่องที่ดินหลังจากที่เราจากไปแล้วได้ง่ายขึ้น
เรียกว่าเป็นการเตรียมทำเรื่องเอกส ารเอาไว้แต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันปัญหาผู้แอบอ้าง
หรือการแบ่งที่ไม่ลงตัวกันเองของผู้รับมอบที่อาจมีมากกว่า 1 คน
การเขียนพินัยกร รมเรื่องโฉนดที่ดินจะช่วยให้เรื่องการโอนที่ดินต่อทาย าทเป็นไปได้ง่ายขึ้น
ขอบคุณที่มา : krustory