Home เกร็ดความรู้ เรื่องจำเป็นต้องรู้ ก่อนตัดสินใจ จ้างถมดิน

เรื่องจำเป็นต้องรู้ ก่อนตัดสินใจ จ้างถมดิน

การถมดินเป็นเสมือนงานด่านเเรกที่เกือบทุ กบ้านจำเป็นต้องพบเจอ

วันนี้เราขอรวบรวมส าระความรู้เกี่ยวกับการถมดิน

เพื่อให้การดำเนินงานถมดินเป็นไปอย่ างราบรื่นครับ

 

1. จำเป็นเเค่ไหนต้องถมดิน

เเม้บ้านส่วนมากที่สร้างขึ้นใหม่ในทุ กวันนี้จะต้องถมดินก่อนก่อสร้าง

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุ ก ๆ การก่อสร้างจำเป็นต้องถมดินเสมอไป

 

สำหรับสถานที่ที่ไม่ได้ต่ำกว่าระดับถนนมากนัก หรือมีพื้นที่ลาดชัน

ลักษณะภูเขาการถมดินอาจไม่ได้จำเป็นสำหรับพื้นที่ดังกล่าว

 

การถมดินเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเ สี่ ย งต่อน้ำท่วมขัง ผู้อ่ านจำเป็น

ต้องสำรวจประวัติน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

 

อาจลองสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงว่า น้ำเคยท่วมหรือไม่ หากเคยท่วม

สูงประมาณเท่าไหร่ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

สั่งดินมาถมได้อย่ างเหมาะสมลงตัว

 

ส่วนพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าถนนมาก หากต้องถมดินจะต้องเ สี ยค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

ผู้เขียนเองเคยคิดจะซื้อที่ดินหนึ่งผืน ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินนาราคาไม่สูงมากนัก

เมื่อคำนวณค่าถมดินเเล้วกลับมีราคาสูงกว่าราคาที่ดินจึงไม่คุ้มที่จะซื้อ

 

แต่หากท่านใดคิดจะซื้อที่ดินในลักษณะดังกล่าว นอกจากการถมดินเเล้ว

การออกเเบบบ้านให้มีโครงสร้างยกสูงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดต้นทุน

การถมดินได้ดีครับ

 

2. ถมดินสูงเเค่ไหนถึงจะดี

ตามหลักฮวงจุ้ย บ้านที่ดีไม่ควรต่ำกว่าถนนเเต่ในขณะเดียวกันไม่ควรสูงโจ่งจนเกินไป

สำหรับบ้านทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้ต่ำกว่าถนนเดิมมากนัก

 

ควรถมดินให้สูงกว่าถนนประมาณ 0.5 – 1 เมตรขึ้นอยู่กับพื้นที่เเละดีไซน์ของบ้าน

เเต่ละหลัง นอกจากค่าเฉลี่ยดังกล่าวเเล้วจำเป็นอย่ างยิ่ง

 

ที่จะต้องสำรวจที่ดินใกล้เคียง เพื่อนบ้านที่ดีไม่ควรถมดินให้สูงกว่าบ้านข้าง ๆ

ควรให้อยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนบ้าน มิเช่นนั้นอาจเกิดปัญหาภายหลังได้

 

3. เผื่อไว้สักนิด อีกไม่นานดินก็ยุบตัว

ทุ ก ๆ การถมดินเเต่ละครั้ง เเม้ผู้รับเหมาถมดินจะบดหน้าดินให้เเน่น

หลังจากเวลาผ่ านไปสักระยะดินจะทรุดตัวเสมอ

 

การถมดินที่ดีจึงจำเป็นต้องถมเผื่อไว้ เช่น ต้องการปรับระดับให้สูงกว่าที่ดิน

เดิม 60 เซนติเมตรควรถมดินไว้ที่ 80 เซนติเมตรเพื่อเผื่อระยะการยุบตัวของดิน

 

4. ถมดินช่วงเดือนไหนถึงจะดี

โดยปกติการสร้างบ้านจะมีฤกษ์งามย ามดี คนโบราณไม่นิยมเริ่มสร้างบ้านเดือน 5 ถึงเดือน 8

ผู้เขียนเองไม่ทราบเหตุผลอันเเท้จริงในอดีต แต่หากให้วิเค ราะห์

 

เบื้องต้นน่าจะเป็นเหตุผลเรื่องฝนฟ้าอากาศเพราะช่วงดังกล่าวเป็นเดือนที่ติ ดฤดูฝน

หากเริ่มสร้างบ้านในช่วงนี้อาจไม่สะดวกต่อการทำงานเเละเสี ยค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิม

 

ส่วนการถมดินก็เช่นเดียวกันครับ หากให้ดีที่สุดควรถมดินก่อนฤดูฝน เพราะหากติ ดฤดูฝน

ไปเเล้ว รถตักดินไม่สามารถลงบ่อดินได้รถบรรทุ กที่มาถมดินย ากลำบาก

 

ต่อการทำงาน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อค่าจ้างถมดินที่สูงขึ้นเเต่หากถมดินให้เสร็จ

ก่อนหน้าฝน เมื่อถึงฤดูฝน ฝนจะช่วยปรับให้ดินเเน่นขึ้น

 

ระยะนี้เองจะเห็นการยุบตัวของดินได้อย่ างชัดเจน หลังหมดฤดูฝนไปเเล้วจึงค่อยเริ่มสร้างบ้าน

ซึ่งพอเหมาะกับดินที่เเข็งตัว เเต่ทั้งนี้ฤดูก าลมีการเปลี่ยนเเปลงได้เสมอ จึงอาจดู

ความเหมาะสมในช่วงนั้น ๆ ด้วย..นับว่าดี

 

5. ดินลูกรังหรือดินดำ

หากไม่ได้เเจ้งผู้รับเหมาถมดินไว้ล่วงหน้า โดยปกติผู้รับเหมาจะนำดินลูกรังมาถมให้

เป็นดินที่ได้จากการขุดดินภูเขาดินเหล่านี้เหมาะกับการนำมาเป็นฐาน

ในการสร้างบ้านเเต่ไม่เหมาะกับการปลูกต้นไม้

 

กรณีที่ต้องการปลูกต้นไม้ด้วยให้ผู้อ่ านกำหนดขอบเขตของพื้นที่สวนให้ชัดเจน

จากนั้นเเจ้งผู้รับเหมาถมดินได้ทราบถึงตำเเหน่งที่จำเป็นต้องใช้ดินดำ (หน้าดิน)

โดยดินดำที่ได้มานี้อาจเป็นดินนาหรือดินเก่าจากสถานที่ใด ๆ

 

ที่เจ้าของดินเดิมต้องการขุดสระ, ขุดบ่อเพื่อใช้ในการเกษตรดินเหล่านี้จะสมบูรณ์

กว่าดินลูกรัง เหมาะกับการจัดสวนเเละโดยปกติจะมีราคาที่สูงกว่าดินลูกรังครับ

 

6. ซื้อดินเป็นคันรถหรือเหมาจ่ายดี

เป็นคำถามยอดฮิตเมื่อต้องถมดิน หลายคนถึงกับกลุ้มใจย ากยิ่งที่จะคำนวณได้ว่า

เเบบไหนคุ้มกว่ากัน หากให้ผู้เขียนเเนะนำเลือกเเบบเหมาจะดีกว่าครับ

เพราะเเบบเหมาสามารถจบงานได้ง่าย

 

งบไม่บานปลาย หากเลือกซื้อดินเป็นคันรถย ากยิ่งที่จะควบคุมปริมาณดินที่เเท้จริงได้

เพราะงานตักดินหามาตรฐานที่เเน่นอนไม่ได้ กรณีซื้อเป็นคันรถผู้รับเหมาอาจตักดินไม่เต็มคันรถ

แต่ละคันตักไม่เท่ากัน เเต่หากซื้อเหมาผู้รับเหมา

 

จะตักดินมาให้เต็มคันรถหรือเยอะกว่าปกติเพราะนั่นหมายถึงค่าน้ำมันที่อาจสูงขึ้น

การเลือกซื้อดินเป็นคันรถจึงเหมาะกับงานเล็ก ๆที่ต้องการจำนวนดิน

 

ที่เเน่นอนเท่านั้น ส่วนการถมดินปริมาณมากเเนะนำให้เเจ้งผู้รับเหมาว่าต้องการถมดิน

สูงจากดินเดิมกี่เมตรจากนั้นผู้รับเหมาจะเสนอราคามาให้ (สามารถต่อรองได้ครับ)

 

7. อย่ าลืมนึกถึงเพื่อนบ้าน

การก่อสร้างทุ กประเภทส่วนใหญ่เเล้วมีผลกระทบกับเพื่อนบ้าน ทั้งเรื่องเสี ยง

รบกวน, ฝุ่น, การใช้ทางร่วมเราในฐานะผู้มาอยู่หลังควรอย่ างยิ่ง

 

ที่จะผูกมิตรกับเพื่อนบ้านไว้ล่วงหน้าเพียงเเค่เเจ้งให้บ้านใกล้เคียงรับทราบว่า

จะมีการถมดินอาจส่งผลกระทบ เกิดความไม่สะดวกในช่วงนี้

 

ต้องขออภั ยไว้ล่วงหน้า เพียงเท่านี้เพื่อนบ้านก็จะรู้สึกยินดี

อาจได้สนิทกันตั้งเเต่บ้านยังไม่เสร็จ นับเป็นการเชื่อมสายสัมพันธ์ที่ดีมากครับ

 

8. ทำสัญญาก่อนว่าจ้างก่อนถมดิน

เรื่องเงิ น ๆ ท อง ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่ างมากในวงการก่อสร้าง

ก่อนตัดสินใจว่าจ้างถมดินจำเป็นอย่ างยิ่งที่จะต้องทำสัญญาว่าจ้าง

 

ซึ่งสัญญาดังกล่าวหากบริษัทรับถมดินไม่มีให้ ผู้ว่าจ้างสามารถทำขึ้นมาเองได้ครับ

ภายในสัญญาระบุให้ครบถ้วนทั้งประเภทดิน, จำนวนกี่คันหรือเหมากี่เมตร,

 

ใช้ดินอะไร, มีผู้ควบคุมงานหรือไม่, ระยะเวลาดำเนินงาน, การชำระเ งิน พร้อมลงชื่อ

นามสกุลและลายเซ็นของผู้จ้างเเละผู้ว่าจ้าง โดยสัญญาดังกล่าวให้ทำไว้ 2 ชุด

 

เก็บไว้ที่ผู้รับเหมาถมดิน 1 ชุด เเละผู้ว่าจ้าง 1 ชุด พร้อมสำเนาบัตรประชาชนหรือ

เอกส ารอื่น ๆ ที่จำเป็นหากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น

 

ผู้รับเหมาถมดินได้ไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ หรือคดโ กงเงิ นหนีงานสัญญาเหล่านี้

สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้ครับแต่หากไม่มีสัญญาการฟ้องร้องภายหลัง

ดำเนินการได้ย ากมาก

 

9. เเบ่งจ่ายเป็นงวดเเล้วจะปลอดภัย

การชำระเงิ นกระบวนการงานก่อสร้างทุ กประเภทควรเเบ่งจ่ายเป็นงวดเสมอ

ผู้ว่าจ้างไม่ควรชำระก่อนล่วงหน้าในครั้งเดียวให้กับผู้รับเหมารายใด

 

เพราะการชำระก่อนในครั้งเดียวมักเกิดปัญหางานล่าช้า, ทิ้งงาน, ผลงานไม่ได้ตาม

ที่สัญญาไว้แต่หากยังมีเ งินที่ค้างชำระผู้รับเหมาจำเป็นที่จะต้องดำเนินงาน

ให้เรียบร้อยก่อนที่จะได้เงิ นครบทั้งหมด

 

หลังจากงานเสร็จสมบูรณ์เเล้วจึงค่อยชำระงวดที่เหลือ โดยปกตินิสัยคนไทยมักใจอ่อน

และงานก่อสร้างเป็นงานที่คนส่วนมากไม่มีประสบการณ์ ผู้รับเหมาอาจมีข้ออ้างต่าง ๆ

เช่น ต้องจ่ายเงิ นให้ลูกน้อง, จ่ายค่าเทอมให้ลูก, แม่ป่ วย,

 

ส ารพัดปัญหาที่ผู้รับเหมาจะมาบอกกับเราจงระลึกไว้เสมอว่า ห้ามใจอ่อน ไม่ว่า

เขาจะเจอปัญหาใดให้ยึดสัญญาและข้อต กลงต่าง ๆ ไว้เสมอ

 

10. ถมดินเเล้วรอนานเเค่ไหน ถึงจะสร้างบ้านได้

เป็นอีกคำถามที่พบบ่อยมาก เเละในขณะเดียวกันเป็นคำถามที่ตอบได้ย าก

เพราะพื้นที่แต่ละเเห่งมีปัจจัยที่เเต กต่างกันแต่หากเป็นบ้านทั่วไปที่ถมประมาณ 0.5-1 เมตร

พร้อมกับใช้โครงสร้างตอกเสาเข็ม ลักษณะนี้จะไม่มีปัญหาภายหลัง

 

เนื่องจากดินที่ถมไม่ได้ทำหน้าที่รับน้ำหนัก รอให้ผ่ านหน้าฝนหรือรดน้ำบดดินให้เเน่น

ก็สามารถสร้างได้เเล้วครับเเต่กรณีบ้านที่ใช้ฐานเเผ่ โดยปกติจะสร้างไว้บนพื้นที่ที่มี

 

ดินเเข็ง เเน่น หากเป็นดินถมใหม่อาจต้องรอย าวนานหลายปีหากให้ดีที่สุดเเนะนำ

ปรึกษาวิศวกรโยธา เพื่อสำรวจที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวก่อนดำเนินงานสร้างจริง

หรือเลือกใช้โครงสร้างเสาเข็มเเทนเพื่อความรวดเร็วครับ

 

ข้อควรรู้

การถมดินโดยส่วนมากเเล้วผู้รับเหมาถมดินจะซื้อดินจากบ่อดิน ซึ่งบ่อดินเกิดจาก

ดินที่ได้จากภูเขาปัจจุบันภูเขาจำนวนมากได้หายไปจากธรรมชาติ

 

เนื่องจากการตักดินขายการถมดินที่ดีจึงจำเป็นอย่ างยิ่งที่ต้องถมเฉพาะ

เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

 

ขอบคุณที่มา : fashionfuns

Comments are closed.

Check Also

แนวคิด10 ข้อ สอนลูกให้ได้ดี เติบโตไปจะได้ไม่ลำบาก

เรื่องราวสอนใจ เผิงลี่หยวน เธอได้แสดงความคิดเห็น กับเรื … …