ทุ กวันนี้เราเห็นคนส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จกันไวมาก ๆ
ทั้งคนรุ่นเดียวกันกับเรา คนอายุไ ล่เลี่ยกัน หรือแม้แต่คนที่อายุน้อยกว่าเรา
จนเราเกิดความรู้สึกนอยด์ตัวเอง น้อยใจในชะตาชีวิตของตัวเอง
แต่ต้องทำความเข้ากันใจว่า มันมีหลายปัจจัยมาก ๆ ที่ต้นทุนชีวิตของบางคน
ก็มีครอบครัวซัพพอร์ตเกิดมาแล้วถ้าล้ มก็ไม่เจ็ บเท่าคนที่ต้องลุกด้วยตัวเอง
ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต อย่ าเอาความสำเร็จของคนอื่นมาเทียบกับตัวของเรา
ยิ่งถ้าเราเทียบยิ่งทำให้เราเสี ยศูนย์ความตั้งใจ เสี ยความมั่นใจ ในตอนนี้
เราอาจจะกำลังสะสมความสำเร็จเล็ก ๆ ของเรา
เราทุ กคนต่างเกิดมาบนเส้นทางชีวิตของตัวเอง เวลาของแต่ละคนไม่ได้มาพร้อมกัน
ดังนั้น อย่ าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร บางคนประสบความสำเร็จ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
ตั้งแต่อายุ 20 แต่บางคนเพิ่งเรียนจบตอนอายุ 22 บางคนเรียนจบก่อนเพื่อนแต่ต้องรออีก 3 ปี
ถึงมีงานทำ บางคนมีครบทุ กอย่ าง บ้าน รถ ที่ดิน แต่กลับประสบอุบั ติเหตุ จบชีวิตตั้งแต่อายุ 29 ปี
แม้แต่คนดัง ๆ ระดับโลก ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จ ช่วงวัยเดียวกัน!! เช่นเดียวกับ “ประธานาธิบดีโอบาม่า”
วางมือจากการเมืองในอายุ 55 ปี ขณะที่ “โดนัลด์ทรัมป์..เป็นประธานาธิบดีในวัย 70 ปี
หรือแม้แต่ “แจ็คหม่า” ที่เคยถูกปฏิเสธเข้าทำงานในเคเอฟซี แต่ไม่กี่สิบปีต่อมา
เขาก็ซื้อเคเอฟซีทั้งหมดในจีนเป็นของตัวเอง… ลองสังเกตดูสิ…!!
คนรอบตัวเรา หลายคนก็ประสบความสำเร็จก่อนเรา บางคนยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
หรือบางคนก็ประสบความสำเร็จหลังเราเสี ยอีก เพราะทุ กคนกำลังวิ่งอยู่ในลู่วิ่งของตัวเอง
ไม่ได้แข่งในลู่วิ่งเดียวกัน เส้นชัยก็คนละที่กัน ดังนั้น เราไม่ควรที่จะไปตัดสิน หรือดูถู กใคร
และก็ไม่ควรเอาตัวเองไปเทีย บกับใครด้วย แค่รู้ว่าตอนนี้เรากำลังวิ่งอยู่ในเส้นทางของเรา
และทำมันให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ถอยห่างจากคนที่ดูถู กเรา
เพราะคนเหล่านั้นไม่เข้าใจคุณค่าของคุณ อย่ ายึดเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก
เพราะจะเป็นการทำล า ยมิตรภาพดี ๆ อย่ าไปกังวลกับความผิ ดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนอื่น
เพราะเราก็มีเหมือนกัน!! จงคิดเสมอว่า… ทุ กวันเป็นวันสุดท้ าย แล้วเราจะทำทุ กอย่ างในชีวิตอย่ างเต็ม
ที่ทุ กคนมีช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จแต กต่างกัน และจุดหมายของความสำเร็จก็ต่างกัน
ขอบคุณที่มา : chayend