1. ยืดหยุ่นในการทำงานซะบ้าง อย่ าตึงเค รียดเกินพอดี
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่าทุ กคนทุ กตำแหน่งย่อมมีภาระหน้าที่แต กต่างกันออกไป
ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนล้วนมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว
การที่เราจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากใครสิ่งหนึ่งที่ต้องจำเลยคือ การรอ ไม่ใช่ว่า
จะต้องได้ทุ กอย่ างทันใจเสมอไปต้องหัดมีความยืดหยุ่นในหน้าที่การงาน
และเรื่องอื่น ๆ เป็นไปตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือจากใครการปรึกษา
งานกับใคร หรือแม้กระทั่งภาระหน้าที่งาน ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบนั่นเอง
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยคือการไม่ก้าวก่ายงานของคนอื่น และเข้าใจในงานของส่วนอื่น
ด้วยเช่นกัน การที่เราเข้าใจคนอื่นรู้จักยืดหยุ่นในเรื่องของการทำงานด้วย
นั่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า เราสามารถจัดการกับทุ กเรื่องที่เข้ามาได้อย ากให้
สาว ๆ คิดไว้เสมอว่าในโลกของการทำงานเราต้องเผื่อเตรียมใจ
เตรียมแผนสำรอง สำหรับเรื่องราวต่าง ๆที่จะเกิดขึ้นด้วยนะคะ เพราะทุ กอย่ างล้วน
เปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเราไปทุ กอย่ างค่ะ
2. แสดงออกถึงความจริงใจอย่ างตรงไปตรงมา
เมื่อไรก็ตามที่เราแสดงออก ถึงความจริงใจไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนร่วมงาน กับหน้าที่ที่เราต้องทำ
หรือกับงานที่เรารับผิดชอบ เชื่อเถอะว่าสิ่งเหล่านั้น มันจะแสดงออกไป ให้ผู้คนรับรู้ได้เอง
โดยที่เราไม่ต้องไปประกาศบอกใครเลยนะคะ หากเป็นเพื่อนร่วมงานหรือเป็นคนในทีมเดียวกัน
ย่อมต้องแสดงความจริงใจออกไปให้มากที่สุด เช่น การคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
มอบน้ำใจให้แ ก่กัน
และเมื่อเกิดปัญหาต้องพูดคุยกันอย่ างจริงใจ ไม่ใช้อ ารมณ์มาตัดสินนั่นเอง
และหากเป็นในเรื่องของหน้าที่การงาน คุณควรแสดงออกในหน้าที่การงานอย่ างจริงใจ
ไม่ใช่ต่อหน้าหัวหน้าขยันทำงาน และลับหลังโยนงานให้คนนั้นคนนี้ และอย่ าลืมที่จะซื่อสัตย์
ต่อผลงานของตัวเองด้วยเมื่อเราแสดงความจริงใจออกไปสิ่งที่ได้กลับมาก็จะได้รับ แต่เรื่องราวดี ๆ
และความจริงใจจากคนอื่นกลับมาค่ะ
3. อย่ าเป็นคนที่ใคร ๆ เรียกว่า “ยกตนข่มท่าน”
ไม่ว่าจะผ่ านไปกี่ยุค สมัยสำนวน “ยกตนข่มท่าน” ก็ยังใช้ได้จริงอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่ง
หากเราอย ากเป็นที่รักในที่ทำงานด้วยเพราะ การที่เราจะเป็นคนเก่งในที่ทำงานบอกเลยว่า
เก่งอย่ างเดียว
อาจไม่เพียงพอ สำหรับการทำงานในสมัยนี้เพราะการที่เราเป็นคนเก่ง แล้วชอบโอ้อ วดความเก่ง
กับคนอื่นหรือทับถมว่าตัวเองเก่งกว่าทุ กคนในที่ทำงานคงเป็นเหตุผลที่ใครมองเข้ามา
ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก
ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่เก่งจริงสักเพียงไหน แต่หากชอบพูดจาทำร้ ายความรู้สึกคนอื่น
หรือทำตัวอยู่เหนือคนอื่นตลอดเวลา ก็คงไม่มีใครพอใจมากเท่าไร แต่ขอบอกเลยนะคะ
ว่าไม่ใช่ว่าให้คุณไม่แสดงความเก่งออกไป
เพียงแต่การแสดงออกถึงความคิดความเก่งนั้นก็สามารถมีวิ ธีการแสดงออกได้หลากหลายวิ ธี
โดยไม่จำเป็นต้องพูดจาทับถมคนอื่น เพื่อให้คนอื่นมองว่าคุณเก่งค่ะ
4. เปิดใจรับฟังความคิดแต กต่างอย่ างเป็นมิตร
ทุ กครั้งที่เราประชุม เพื่อหาไอเดียใหม่ ๆ หรือไม่ว่าในขณะทำงานอยู่ ย่อมเจอกับเหตุการณ์ที่มีความคิดเห็น
แต กต่างกันออกไป เพราะแต่คนละก็มีความคิดของตัวเองกันทั้งนั้น ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่เพื่อน
หัวหน้า หรือลูกน้อง
มีความคิดเห็นที่แต กต่างจากเรา สิ่งหนึ่งที่คุณควรทำเลย คือ การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
และสิ่งที่จำเป็นอย่ างยิ่งคือ การเปิดกว้างทางความคิดความรู้สึก เพื่อรับฟังสิ่งที่ไม่ตรงกัน
อย่ าเพิ่งแสดงท่าทางไม่ถูกใจ ออกไปในทันที สุดท้ายแล้วหากเราคิดว่าอย ากจะแสดงความคิดเห็น
หรือจะปฏิเสธ สิ่งที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดของคนอื่น เราสามารถจัดการได้อย่ างสุภาพ
และไม่ต้องทำร้ ายจิตใจใครได้นะคะ การทำแบบนี้จะช่วยให้เราเป็นที่รักของทุ กคน
ในที่ทำงานด้วยค่ะ
5. ใช้ความคิดเห็นหรือใช้เพียงแค่ความรู้สึก
ในการทำงานทุ กอย่ าง เชื่อว่า มันจะต้องมีหลายต่อหลายครั้ง ที่ทำให้เรารู้สึกว่า
ไม่ค่อยลงรอยกับคนในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นด้วยนิสัย ทัศนคติ หรือวิ ธีการทำงาน
แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรปฏิบัติต่อทุ กคนเหมือนกันเลยคือ อย่ าพย าย ามใช้อ ารมณ์ในการตัดสิน
ใครคนหนึ่งถ้าพูดให้เห็นภาพอย่ างง่าย ๆ เลย ก็คือ หากเราไม่ชอบนิสัยใคร ก็ไม่จำเป็นว่า
เขาจะต้องทำงานไม่ดีเสมอไป
จริงหรือเปล่าคะ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใคร อย ากให้สาว ๆ ลองใช้เหตุผลแสดงความคิดเห็นออก
มาให้มากกว่าเดิมเพื่อที่คนภายนอกมองจะได้รู้ว่า เราก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะมีเหตุไม่นำอ ารมณ์
ของตัวเองมาตัดสินใคร ๆ ค่ะ
ขอบคุณที่มา : sabailey