หากเราลองมองย้อนกลับไปในวัยเรียน เห็นตัวเองเป็นอย่ างไรกันบ้าง บ้างอาจเกเร ไม่ค่อยชอบเข้าเรียน
หนีไปเล่นเกม บ้างอาจตั้งใจเรียน เพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทย าลัยที่ตัวเองหวัง
แต่เชื่อแน่ว่าเ ด็กตั้งใจเรียน นั่งอยู่หน้าห้องคงเป็นส่วนน้อยแน่นอน ส่วนเ ด็กหลังห้องแบบเราๆ แล้ว
เรื่องเรียนถือเป็นปัจจัยรองอย่ างช่วยไม่ได้ ซึ่งมีคำเฉพาะสำหรับใช้เรียกนักเรียนกลุ่มนี้ว่านักเรียนเกรด C
การตั้งใจเรียนถือเป็นสิ่งดีมาก แต่เราเพียงแค่อย ากหยิบยกอีกแง่มุมหนึ่งของคำถามที่ว่า
ทำไมเ ด็กเรียนไม่เก่ง ถึงมักจะมีชีวิตที่ค่อนข้างดี ขัดจากคำดูถูกที่อาจารย์ได้พร่ำบอกเขามาให้ดูก็เท่านั้นเอง
1. พวกเขามีคำจำกัดความของคำว่า ความสำเร็จเป็นของตัวเอง
นักเรียนเกรด C มักรู้ว่าความสำเร็จของพวกเขา ไม่ได้มาจากการที่ได้เกรดเอในห้องเรียน เพราะเ ด็กเหล่านี้รู้ว่า
ความสำเร็จมักเกิดมาจากการสั่งสมประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกมากกว่า และพวกเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่ างไร
เพราะพวกเขามีหนทางที่เขาได้เลือกไว้ในใจอยู่แล้ว
2. พวกเขามักมีเรื่องใหญ่กว่าที่ต้องกังวล
น่าแปลกที่มีผลการยืนยันที่น่าสนใจว่า หากเราตั้งใจเรียนมากเกินไป จะทำให้เราไม่มีเวลาคิดถึงอนาค ตอย่ างจริงจัง
นี่เองเป็นหนึ่งในเห ตุผลที่ทำให้นักเรียนเกรด C มักประสบความสำเร็จในชีวิตหลังการเรียนจบ เพราะเ ด็กเหล่านี้คอยเฝ้ารอ
และคิดมาตลอดถึงชีวิตหลังการเรียนจบ ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตที่แท้จริง
3. พวกเขาไม่ยอมเป็นผู้ติดตามใคร
พวกเขามักไม่ค่อยชอบเดินตามเส้นทางของใคร โดยเ ด็กเหล่านี้ไม่เชื่อว่า การที่ชีวิตของพวกเขาต้องไปคอยเดินตามบุคคล
ที่คนอื่นต่างคิดว่าเป็นแบบแผน จะเป็นหนทางที่ถูกต้อง อีกทั้งพวกเขายังไม่ชอบให้ใครมาบอกว่า พวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่ างไร
เพราะนักเรียนเกรด C จะมีวิธีการดำเนินชีวิตในแบบของพวกเขาเอง
4. พวกเขามักไม่พย าย ามประจบประแจงผู้บังคับบัญชา
นักเรียนเกรด C มักไม่เคยมีพฤติกร รมประจบประแจง หรือคอยเอาใจอาจารย์ของพวกเขา พวกเขาจะเคารพรักครูของพวกเขา
แต่จะไม่ได้ต้องทำตาม หรือเชื่อในทุกสิ่งที่ครูของพวกเขาพูด เพราะเ ด็กเหล่านี้ไม่เชื่อว่า
การที่ทำทุกสิ่งตามที่ครูสั่ง จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำพาเขาไปสู่คว ามสำเร็จในการดำเนินชีวิตในอนาค ต โดยพวกเขามักมี
ความคิดว่า ความก้าวหน้าในอนาค ตคือ สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องสร้างขึ้นเอง
5. พวกเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการศึกษา
นักเรียนเกรด C จะไม่ค่อยเชื่อมั่นในระบบการศึกษ าที่ตีกรอบอยู่ภายในห้องเรียน พวกเขาเชื่อในการเรียนรู้ที่อยู่ภายนอกมากกว่า
เพราะรู้ว่าการเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์
อีกทั้งยังไม่กลัวที่จะท้าทายตัวเอง แม้การท้าทายไปสู่หนทางนั้น อาจอึดอัดจากการค้านสายตาของบุคคลอื่น แต่นักเรียนเกรด C
รู้ว่า มันก็อึดอัดน้อยกว่า ที่จะต้องเดินไปในหนทางที่ผิ ดพลาด และไม่ใช่ตัวเอง
6. พวกเขามักเป็นคนช่างฝัน
ในบรรย ากาศห้องเรียน ขณะที่เหล่าเ ด็กเรียนทั้งหลายตั้งใจเรียนอยู่ นักเรียนเกรด C มักมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูท้องฟ้า
และเมฆ และจินตนาการสิ่งต่างๆ ไปเรื่อยเปื่อย เ ด็กเหล่านี้มักเป็นเ ด็กที่ช่างฝัน
ชอบจินตนาการนอกกรอบ พวกเขามักจะจินตนาการไปถึงการทำงานในชีวิตจริง ดังนั้นเมื่อพวกเขาเรียนจบแล้ว และมีอิสระ
ทำให้พวกเขาทุ่มเททุกอย่ าง เพื่อสร้างความฝันที่เขามักวาดไว้ให้เป็นจริงนั่นเอง
7.พวกเขามักจะเรียนรู้โดยตรงมากกว่า
นักเรียนเกรด C มีความคิดว่า การที่จะต้องเรียนรู้อะไรสักเรื่องหนึ่ง การที่พาตัวเองไปเรียนรู้กับมันโดยตรง ถือเป็นสิ่งสำคัญ
นี่เองเป็นเห ตุผลว่า เมื่อเ ด็กเหล่านี้สนใจอะไร พวกเขาก็จะทุ่มเทตัวเขา
ต่อการเรียนรู้สิ่งนั้นสุดตัว อีกทั้งพวกเขามักกำหนดทิศทางก ารเรียนรู้ในแบบของพวกเขาเอง โดยไม่ต้องการคำตอบสูตรสำเร็จ
จากผู้อื่น แต่พวกเขาจะมีวิธีการเรียนรู้ในแบบของตัวเองอ่านแล้วเป็นอย่ างไรกันบ้าง มีใครเป็นนักเรียนเกรด C
กันบ้างหรือเปล่า เชื่อว่าคงมีอีกหลายคนที่จบการศึกษามาแล้วตอนนี้ และกำลังพย าย ามสุดวิถีทางในการไล่ล่าความฝันให้
เป็นจริงอยู่ เราเชื่อเหลือเกินว่าความทุ่มเท
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้คุณไปถึงฝั่งฝันได้ ดังนั้นอย่ าท้อ จงสู้ไปเพื่อความฝัน เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดแล้วล้มเหลว
นั่นคือวิธีเดียวที่จะยอมให้คำพูดของเหล่าครูบาอาจารย์ ที่เคยดูถูกไว้เป็นจริง แบบนั้นเราจะยอมได้เหรอ
“ปลาไม่ผิดที่บินไม่ได้
นกผิดตรงไหนที่ว่ายน้ำไม่เป็น
คนที่เรียนไม่เก่งก็ไม่ได้แปลว่า..โง่”
ขอขอบ : u n l o c k m e n