อย่า “อยากกอดพ่อแม่” ในวันที่เหลือเพียงแต่รูปท่านให้กอด (อ่านเถอะเขียนไว้ดีมาก)
เคยมีคำโบราณ เคยกล่าวไว้ว่า“มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน เหมือนมีสิ่งล้ำค่า”บ่อยครั้งที่เรามักจะใส่ใจคนนอกบ้าน
มากกว่าคนในบ้านทั้งให้ความสำคัญและใช้เวลาอยู่กับคนนอกบ้านมากกว่าแต่กับคนในบ้าน กลับ “ละเลย”
ความรู้สึกเขาไปซะอย่ างงั้นอาจจะเป็นเพราะ “ความเคยชิน” ที่คิดว่า เจอกันอยู่ทุกวันเดี๋ยวค่อยดูแลจึงทำให้เราเลือก
ที่จะเมินเฉยต่อคนในบ้านไม่ต้องรีบร้อนที่จะทำอะไรให้ท่าน
เพราะกลับมาบ้านก็ยังต้องเจอกันอยู่แต่คุณกำลัง ลืมอะไรไปอยู่หรือเปล่า “พ่อแม่” ไม่ได้มีเวลาอยู่กับเรา
หรือรอเราไปได้ ตลอดชีวิตดังนั้นจงให้ “ความสำคัญ” ท่านเป็นอันดับแรก ก่อนเสมออย่าเอาของโปรดมาให้กินในวันที่พ่อแม่กินไม่ได้
อย่าพาไปเที่ยว ในวันที่พ่อแม่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดิน อย่าขอโท ษพ่อแม่ ในวันที่สายเกินไปแล้ว อย่าอยากจับมือ
ในวันที่พ่อแม่ ไม่รู้สึกแล้ว อย่าบอกรัก บอกคิดถึง ในวันที่พ่อแม่ไม่ได้ยินแล้ว อย่าอยากกอดพ่อแม่
ในวันที่เหลือเพียงแต่รูปท่านให้กอด อย่ารอกราบเท้าพ่อแม่ ในวันสุดท้ายของชีวิตท่านพ่อแม่ สามารถรอลูกได้เสมอ
แต่ชีวิตท่านอยู่ไม่ได้ตลอดไปอย่ามองว่า พ่อแม่“เป็นเพียงคนเฝ้าบ้าน”เมื่อก่อน ตอนที่ยังพูดไม่เป็นใครกัน
ที่เป็นคนสอนให้พูดได้เมื่อก่อน ตอนที่ยังเดินไม่เป็น ใครกันที่สอนให้เดิน ได้เมื่อก่อนตอนที่ยังกินข้าวเองไม่เป็น
ใครกันที่ป้อนข้าวป้อนน้ำเมื่อก่อนตอนที่อาบน้ำเองไม่เป็น ใครกันที่ล้างให้ โดยไม่นึกรังเกียจ
“ชีวิตทุกคนมีค่า เพราะเวลานั้นมีจำกัด” บนโลกใบนี้มีความไม่เที่ยงอยู่มากถ้ารู้ว่าเวลามีไม่มากก็จงทำสิ่งดีๆให้กันมากๆ
อย่าไปทะเลาะ หงุดหงิดใส่กันหรือมัวแต่มีอคติเพราะมันเสี ยเวลาที่มีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์หากยังมี “โอกาส”
ได้ดูแลท่านอยู่ ก็จงรีบทำซะ