เมื่อลูกสาวพาแม่ผู้ชราไปกินอาหารค่ำที่ร้านเล็กๆแต่หรูหรา มีแต่คนชั้นสูงมารับประทานอาหาร
ที่มีบรรยากาศดูขรึมขลังอลังการ แม่ของเธอดูสูงวัยและร่วงโรย กินอาหารด้วยมือสั่นเทา
จนอาหารหกตกหล่นบนเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนเป็นดวง ช้อนกระทบจานชาม เสียงดังจนแขกโต๊ะอื่นๆพากันมองอย่างสมเพช
ขณะที่ลูกสาวนั่งข้างๆ ช่วยตักอาหารและพูดกับแม่อย่างยิ้มแย้มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ดูเหมือนเธอไม่สนใจว่าใครจะมองมา
เมื่อแม่กินเสร็จ ลูกสาวซึ่งไม่ได้มีท่าทีอับอายอะไร พาแม่ไปที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำ
จัดแจงเช็ดรอยเปื้อนจากเศษอาหารบนเสื้อผ้าของแม่หวีผมให้ และช่วยขยับแว่นให้เข้าที่เข้าทาง
เมื่อพวกเธอเดินออกมา คนทั้งห้องมองมาเป็นตาเดียวกัน สายตาเหมือนจะบอกความหมายว่าไม่อายบ้างหรือที่มาทำรุ่มร่ามในร้านหรูอย่างนี้
ลูกสาวจ่ายค่าอาหารแล้วพาแม่เดินช้าๆ ผ่านโต๊ะอื่นๆ ไปยังทางออก มีชายกลางคนในหมู่แขกร้องบอกลูกสาวว่า
“สาวน้อย เธอทิ้งอะไรไว้หรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรนี่ค่ะ” ลูกสาวตอบ
“เธอทิ้งไว้แน่” ชายวัยกลางคนพูดต่อ
“เธอทิ้งแบบอย่างไว้ให้ลูกสาวทุกคน และ สำหรับแม่ทุกคนด้วย”
คนทั้งร้านเงียบกริบ
“เมื่อเรายังเด็ก เราเลอะเทอะเปรอะเปื้อน และส่งเสียงดังน่ารำคาญกว่านี้หลายเท่า แม่ไม่เห็นเคยอายใคร”
การได้มีโอกาสใส่ใจดูแลพ่อแม่ที่เคยดูแลเรามา น่าภูมิใจที่สุด เห็นด้วยไหม ?
ถ้าอ่านแล้วเห็นว่ามีสาระอยู่บ้างส่งต่อได้ครับ
ที่มา: เฟซบุ๊ก อาหารเพื่อสุขภาพ