เกิดมาหนึ่งชีวิต อย่ าไปคาดหวังอะไรให้มาก แค่มองความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ
มีความสุขอยู่ในทุ กวันก็เพียงพอแล้ว
ตอนมีอายุ 1 ขวบ ความสำเร็จ คือ การเดินได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีใครมาพยุง
ตอนมีอายุ 4 ขวบ ความสำเร็จ คือ…ไม่ฉี่รดกางเกง
ตอนมีอายุ 8 ขวบ ความสำเร็จ คือ…รู้ทางกลับจากโรงเรียนมาบ้านได้
ตอนมีอายุ 15 ปี ความสำเร็จ คือ…การมีเพื่อนมากมายที่รักเรา
ตอนมีอายุ 18 ปี ความสำเร็จ คือ…การสอบเข้ามหาวิทย าลัยได้
ตอนมีอายุ 22 ปี ความสำเร็จ คือ…การเรียนจบจากมหาวิทย าลัย
ตอนมีอายุ 25 ปี ความสำเร็จ คือ…การมีงานทำ สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้
ตอนมีอายุ 30 ปี ความสำเร็จ คือ…การสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
ตอนมีอายุ 35 ปี ความสำเร็จ คือ…การสร้างฐานะที่มั่นคงได้มากขึ้น
ตอนมีอายุ 45 ปี ความสำเร็จ คือ…การได้ให้การศึกษาดี ๆ แ ก่ลูก ๆ
ตอนมีอายุ 50 ปี ความสำเร็จ คือ…การรัก ษาภาพลักษณ์ที่ดี
ตอนมีอายุ 55 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังสามารถทำงานได้อย่ างดี
ตอนมีอายุ 60 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังขับรถ พาตัวเองไปในที่ที่อย ากไปได้
ตอนมีอายุ 65 ปี ความสำเร็จ คือ…มีสุข ภาพที่แข็ง แรง ไม่เ จ็บไม่ไข้
ตอนมีอายุ 70 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังได้พบปะ พูดคุยกับเพื่อนเก่า ๆ
ตอนมีอายุ 75 ปี ความสำเร็จ คือ…ไม่เป็นภาระให้ใคร
ตอนมีอายุ 80 ปี ความสำเร็จ คือ…ยังจำทางกลับบ้านได้
ผมได้ถามเพื่อนคนหนึ่ง ที่ตอนนี้เขาอายุ 60 ปีแล้ว ผมถามเขาว่า คุณได้เรียนรู้
อะไรและอย ากจะเปลี่ยนแปลงอะไรที่ผ่ านมาในชีวิตบ้าง และก็ได้ข้อสรุปดังนี้
1. ผมจะถอยห่างจากคนที่ดู ถูกผม เพราะคนเหล่านั้นไม่เข้าใจคุณค่าในตัวผม
ดังนั้นผมจะไม่อยู่ใกล้ให้ความคิดลบของเขา มาทำให้จิตใจผมต้องขุ่นมัว
2. ผมจะไม่ยึดเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก จนทำล ายมิตรภาพดี ๆ เพราะการอยู่
คนเดียว มันไม่ความสุขเท่าการมีความสุขหลาย ๆ คน
3. ผมจะมองในแง่บวก ชื่นชมมากกว่าตำหนิ ไม่ใช่แค่ทำ
ให้อีกฝ่ายรู้สึกดี แต่ก็ยังทำให้เรารู้สึกดีไปด้วย
4. ผมจะไม่กังวลกับรอยเปื้อนเล็ก ๆ บนเสื้อผ้า หรือแม้แต่ข้อผิ ดพ ลาดเล็ก ๆ
น้อย ๆ ของคนอื่น เพราะนิสัยสำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
5. ผมจะไม่พูดกับผู้สูงอายุว่า “เรื่องนี้ท่านได้เล่าให้ฟัง…หลายครั้งแล้ว” เพราะเรื่องที่
ท่านกำลังเล่า ทำให้ท่านช่วยฟื้นความทรงจำ ไม่ทำให้เป็นคนขี้หลงขี้ลืม
6. ผมจะไม่แก้ไขความผิดคนอื่น แม้ว่าคนเหล่านั้นจะผิด เพราะการทำ
ให้ทุ กคนเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่หน้าที่และความรับผิดชอบของผม
7. เมื่อต้องจ่ายค่าแท็กซี่ ผมไม่รอให้คนขับหาเศษเหรียญมาทอน การให้
ทิปเขาเล็กน้อย อาจได้รับรอยยิ้มตอบแทนมา และนั่นคือสิ่งที่ดี
8. เมื่อก่อนผมรักพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนฝูง แต่ตอนนี้ผมอายุมากขึ้น
สุข ภาพก็เริ่มถดถอย ผมหันกลับมารักตัวเองมากขึ้น
9. ผมไม่ต่อราคากับแม่ค้าขายผักผลไม้ ผมอาจจะต้องจ่ายเ งินเพิ่มอีกเล็กน้อย
ซึ่งไม่ได้กระทบกับชีวิตผม แต่เ งินเพียงเล็กน้อยที่ผมต่อ อาจหมายถึงค่าเล่าเรียนในอนาคตของลูก ๆ เขา
10. ผมคิดไว้เสมอว่า ทุ กวันเป็นวันสุดท้าย เพราะวันหนึ่งก็ต้อง
ถึงวันสุดท้ายของชีวิต และผมจะทำในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข
เพื่อน ๆ ที่ผมรู้จัก บางคนยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณ ก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว ส่วนบางคนที่เพิ่งเกษียณ
แทนที่จะได้พักผ่อนให้สบายร่าง กายที่ต้องทนทำงานมาเกือบค่อนชีวิต กลับต้องไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ใน
โรงพย าบาล ส่วนผมนั้นโ ชคดี…ที่ตอนนี้ยังเดินทางไปนั่นนี่ได้อย่ างสะดวก ต้องขอบคุณทุ กสิ่งที่ผ่ านมาในชีวิต
ที่ทำให้ผมยังเป็นผมได้อยู่ทุ กวันนี้
ขอบคุณที่มา : b i t c o r e t e c h