1. อย่ ากังวลกับอายุ
ผู้ชายทุ กคนล้วนโตตามวัย แต่ไม่ใช่ทุ กคนที่โต (เป็นผู้ใหญ่) ผู้ชายบางคนพย าย ามที่จะรั กษาความเป็นหนุ่มไว้ตลอดไป
ซึ่งพฤติกรร มเหล่านี้เราสังเกตได้จาก ท่าทาง คำพูด และการแต่งกาย และสิ่งที่พวกเขากำลังพย าย ามทำอยู่
ก็คือการทำทุ กอย่ างเพื่อจะหยุดยั้งอายุที่มากขึ้นของพวกเขาแต่การทำแบบนี้ไม่ได้จะทำให้เขามีอายุยืนตลอดไปไม่ว่า
จะวิ ธีทางวิทย าศาสตร์หรือใด ๆ ก็ตามลองมองในความเป็นจริงกัน
ไม่มีอะไรผิดหรอกที่คนเราจะอายุมากขึ้นตามวัยของเรา ผู้ชายบางคนยิ่งอายุมาก ยิ่งดูดี ยิ่งหล่อ ยิ่งเท่ห์ด้วยซ้ำ
ดังนั้น คุณผู้ชายทั้งหลายควรแสดงออกตามช่วงวัยที่เหมาะสมยิ่งเราโตมากขึ้นการอยู่กับกฎข้อบังคับและการควบคุมต่าง ๆ
จะน้อยลงกว่าตอนเป็นเด็ กหรือช่วงวัยรุ่น ทำให้เราสามารถทำอะไรได้ง่ายขึ้นด้วยความที่โตแล้ว ต่างจากตอนช่วงเ ด็ก ๆ
ดังนั้น แมนตัวจริงต้องแสดงออกอย่ างเหมาะสมกับอายุของตัวเองและใช้ชีวิตเหมือนทุ กวันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
อย่ าไปกลัวความแ ก่หรือความต า ย แต่ให้คิดว่าเราได้ใช้ชีวิตคุ้มรึยัง
2. เปิดกว้างการสนทนา
ศิลปะการพูดหรือการสนทนานั้นไม่ใช่เรื่องอย ากที่คนทั่วไปคิดผู้ชายทั่ว ๆ ไปสามารถพูดคุยได้เฉพาะเรื่องที่เขาสนใจเป็นพิเศษ
เท่านั้นหากเป็นเรื่องอื่นก็แทบจะไม่สนใจหรือปิดการสนทนาแบบเนียน ๆ เลยก็ว่าได้
แต่หนุ่ม ๆ ที่โตแล้วเขาจะเรียนรู้การรั กษาบทสนทนาให้เป็นไปอย่ างราบรื่นและสนุกทั้งวงสนทนาแม้ว่าคุณจะไม่ได้ชื่นชอบในเรื่องที่
กำลังคุยอยู่อย่ างเป็นพิเศษแต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโบกมือลาคู่สนทนาหรือนั่งเงียบ ๆ เพียงแค่คุณเปิดใจกว้างรับฟัง
และปล่อยให้บทสนทนาเป็นไปอย่ างธรรมชาติ แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีความรู้ประดุจนักปราชญ์หรืออัจฉริยะที่จะรู้ไปทุ กเรื่องบนโลก
ใบนี้แต่คุณก็สามารถแสดงความสนใจและเอ็นจอยไปกับมันได้ คุณสามารถถามเพื่อช่วยให้เข้าใจเรื่องนั้น ๆ ได้ดีขึ้น
และเป็นการแสดงความสนใจในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวคุณด้วย
และที่สำคัญมันยังทำให้บทสนทนาไปต่อได้อย่ างราบรื่นและไม่น่าเบื่อ นี่ละที่ผู้ใหญ่มือโปรเขาทำกัน !
3. เพราะรัก…จึงบอก
เพราะ ”รัก” จึงบอกว่า “รัก”เรียกว่าสมัยนี้หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ขยันพูดคำว่ารักอย่ างสิ้นเปลืองมากรวมทั้งยิ่งเวลาแอลกอฮ อล์เข้า
ร่า งกายแล้วนั้น ความใจกล้าบ้ าบิ่นยิ่งทำให้กล้าพูดเรื่องแบบนี้อย่ างไม่คิดอะไรได้ง่าย ๆ
เรียกว่าแบบไม่เห็นใจคนฟังกันเลยทีเดียวแต่เราขอบอกหนุ่ม ๆ ว่าผู้ชายที่เขาโต กันแล้วเนี่ย เขาจะไม่พูดคำว่ารักพร่ำเพื่อ
เพราะคนที่โตแล้วจะเรียนรู้จากประสบการณ์และด้วยความเป็นผู้ใหญ่
เขาจะเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงว่ามันควรจะเอื้อนเอ่ยเมื่อใด แบบไหนและกับใครจึงจะเหมาะสม
และเขาจะกล่าวคำว่า “รัก” เมื่อเขารู้สึกแบบนั้นกับคน ๆ นั้นจริง ๆ ดังนั้น โตแล้วไม่พูดรักพร่ำเพื่อกันนะ
4. การให้เกียรติคนรัก
ในช่วงวัยรุ่น เป็นธรรมดา ๆ ที่หนุ่ม ๆ จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการตามจีบสาว ๆ ในช่วงห้วงเวลานั้นผู้ชายต่างตระหนักถึงความ
สำคัญในการใช้เวลาดูแลใส่ใจหวาน ด้วยความเสมอต้นเสมอปลายตามที่พวกเธอคาดหวังไว้
แต่สำหรับหนุ่มบางคนนั้นไม่เคยตระหนักถึงความสำคัญข้อนี้เลยพวกเขาละเลยการดูแลคนรักอีกทั้งยังคงสนุกกับการตาม
จีบสาว ๆ คนอื่นอีก ดังนั้น ลูกผู้ชายตัวจริง (หรือหนุ่มที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว) เขาจะไม่สนใจกับการมีรักซ้อน
หรือการจีบสาวคนอื่น ๆเพื่อทำให้ตัวเองดูเท่ห์หรือมีเสน่ห์ เพราะไม่ใช่วิ ธีของหนุ่ม ๆ (ที่โตแล้ว)เขาจะใช้เวลาคิดถึงอนาคต
การใช้ชีวิตร่วมกันกับหวานใจเท่านั้นโดยการตระหนักถึงกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสุขของชีวิตของทั้งคู่ต่างหากรวมทั้ง
การดูแลหวานใจอย่ างสม่ำเสมอและอยู่เคียงข้างกันตลอด
5. ดริ๊งอย่ างเหมาะสม
นาน ๆ ทีจะได้สนุกสนานลิ้มรสกับค็อกเทล การดื่มแอลกอฮ อล์ในปริมาณที่พอดีจะส่งผลดีต่อสุ ขภาพของหนุ่ม ๆแต่ที่ปัญหามัน
เกิดเพราะหนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจการดื่ม “พอเหมาะพอควร” นั่นเองเวลาคุณไปบาร์ลองสังเกตุแต่ละห้องแต่ละโต๊ะ
คุณจะสามารถแยกเด็ กหนุ่มกับผู้ใหญ่ออกจากกันได้เลย(หมายถึงการวางตัว หรือวุฒิภาวะของผู้ชายแต่ละคน)ผู้ชายที่โต
แล้วมักจะไปสนุกสนานกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนอื่น ๆ ที่เขาสนิท และมีการดื่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยที่เขาสามารถดูแลและควบคุมตัวเองได้อย่ างดี และยังโชว์ความเป็นผู้ชายที่น่าเคารพได้อีกด้วยเรื่องแบบนี้เขาไม่ได้
ดูที่อายุกันนะ แต่ดูที่การแสดงออกด้วยการวางตัวอย่ างเหมาะสม
6. โตแล้ว … ต้องเก็บอ ารมณ์เป็น !
หนุ่ม ๆ ต้องเรียนรู้การแสดงอ ารมณ์อย่ างถูกวิ ธีเราเชื่อว่าหลายคนสามารถแสดงออกอย่ างสร้างสรรค์และมีกลยุทธ์
ได้ดีแต่ก็น้อยคนที่จะทำได้เช่นกันหนุ่มเจ้าโทสะบางคนถ้ามีอะไรขัดใจปุ๊ป ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน โวยวายบ้านแทบแต ก
ข้าวของแทบพังหรือจะเป็นหนุ่มสุดดราม่า เสี ยใจ ผิดหวัง อกหั ก เฮิร์ท ต กงาน บลา ๆ ก็ร้องไห้เป็นเต่าเผาและอีกหลาย
อาการของหนุ่ม ๆ ที่แสดงออกว่าคุณยังเป็นเ ด็กอยู่นั่นเองดังนั้น ถ้าคุณอย ากโตเป็นผู้ใหญ่นั้น เลิกซะ ! พฤติกรร มเหล่านี้
เพราะคนที่โตแล้วเขาจะมีวุฒิภาวะการแสดงออกทางอ ารมณ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์และกับบุคคลต่าง ๆ
เช่น คุณอาจจะแสดงความเศร้าโศกเสี ยใจกับเพื่อนสนิทของคุณได้หรือต้องเก็บอ ารมณ์โกรธเมื่อโดนขัดใจในที่สาธารณะ
ไม่เช่นนั้นคุณก็ยังไม่ก้าวผ่ านจากความเป็นเด็ กเ สียที จงเรียนรู้วิ ธีแสดงออกอย่ างเหมาะสม !
7. ดูดีจากภายในสู่ภายนอก
แน่นอนว่าไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่มีร่า งกายที่เพอร์เฟ็กต์แม้บ้านเราจะมีวิทย าการเข้ามาช่วยในเรื่องนี้มากมาย
แต่ก็ยังมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยและผลกระทบอื่น ๆ อยู่บ้าง
ดังนั้น ผู้ชายทุ กคนจะพบว่าร่า งกายตัวเองเปลี่ยนไปตามก าลเวลาซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตและตามก าลเวลา
นั่นเองและสิ่งที่เราอย ากบอกคุณผู้ชายทั้งหลายนั่นก็คือ
การดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอกด้วยการมีจิ ตใจที่แจ่มใส ร่าเริง มีความสุขหรือที่เรียกว่าหล่อจากภายในนั่นเอง
รวมทั้งการดูแลตัวเองภายนอกด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามหลัก
โภชนาการตามแต่ละช่วงวัยของหนุ่ม ๆโดยให้ไปเป็นตามหลักธรรมชาติและการดูแลตัวเองตามหลักธรรมชาติเช่นกัน
ถ้าคุณโตเป็นผู้ใหญ่พอ …คุณจะรู้ว่าวิ ธีไหนคือวิ ธีที่จะรัก ษาสุ ขภาพกายและใจของคุณอย่ างยั่งยืนและดีที่สุด !
8. การควบคุมอ ารมณ์
จากงานวิจัยพบว่า การได้ปลดปล่อยอ ารมณ์หรือระบายอ ารมณ์ออกมาบ้าง “เป็นครั้งคราว” อาจจะดีต่อคุณผู้ชายทั้งหลาย
เพราะการได้แสดงทางอ ารมณ์จะช่วยให้สุ ขภาพจิ ตของหนุ่ม ๆ ดีขึ้น
รวมทั้งช่วยทำให้ประสิทธิภาพความแข็ งแรงของร่า งกายดีขึ้นรวมทั้งช่วยเพิ่มความต้องการทางเ พศ และยังช่วยให้การ
เจรจาต่อรองทางธุรกิจดีขึ้นแต่คุณผู้ชายทั้งหลายมักจะลืมหรือไม่เข้าใจคำว่า “ครั้งคราว , นาน ๆ ที , บางครั้ง”
แล้วดันแสดงอาการระบายอ ารมณ์เต็มที่อย่ าง “บ่อยครั้ง” แม้มันจะค่อนข้างย ากที่จะปรับอ ารมณ์และควบคุมอ ารณ์ของคุณ
ที่ไฟพุ่งให้เย็นลงประดุจน้ำแข็งเพื่อรั กษาสถานการณ์ได้ขึ้นแต่มันเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการรัก ษาความสงบในสถานกานนั้น ๆ
แต่ที่แน่ ๆ คนที่โตพอเขาจะรู้ว่าเวลาใดที่พวกเขาจะสามารถปล่อยระเ บิดได้เต็มที่และเวลาใดไม่ควรทำอย่ างยิ่ง
9. บอกลาความเ สียใจทั้งหลาย
ขงจื้อกล่าวว่า “ความผิ ดพลาดที่เกิดขึ้นมันก็ไม่มีผลอะไร เว้นเสี ยแต่คุณไปนั่งคิดนั่งจำมันต่อไป”ทุ กคนมีความผิ ดพลาดในชีวิต
บ่อยครั้งด้วยธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะชอบจำในเรื่องความผิดและปล่อยให้มันมาเป็นตัวทำร้ า ยจิ ตใจ
ของเราอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งเป็นเหตุให้ร่า งกายแ ย่ลงจากสุ ขภาพจิตภายในที่แ ย่ส่งผลต่อสุ ขภาพกายแล้วคุณคิดว่ามันมี
เหตุผลดีงามอะไรที่จะต้องมานั่งจำเรื่องพวกนี้ไปตลอดชีวิต กันล่ะลองเปลี่ยนเรื่องพวกนี้เป็นบทเรียน
เพื่อเป็นแรงผลักดันในชีวิตของคุณจะดีกว่ามั้ยการเก็บเรื่องพวกนี้มาเป็นอ ารมณ์ไม่ได้ช่วยให้สุ ขภาพของคุณดีขึ้นเลยนะ
คนที่โตแล้วจะไม่ปล่อยให้ความผิ ดพลาดหรือเรื่องในอดีตมาทำให้ความสุขในอนาคตหดหายไป
แต่จะเก็บมันมาเป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ไห้เกิดความผิ ดพลาดในอนาคตต่างหากล่ะ
10. โบกมือลากับสิ่งรอบตัวที่แ ย่
ในช่วงวัยเด็ กจนถึงวัยรุ่น หนุ่ม ๆ ทุ กคนก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แต กต่างกันไป ได้รู้จักผู้คนมากมายในชีวิตทั้งแต่เด็ กจนโต
ซึ่งทุ กคนต้องแยกออกอย่ างแน่นอน ว่าสิ่งไหนคือสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือไม่ดี รวมทั้งบุคคลใดที่คุณควรคบอยู่ในระดับไหน
ควรสนิทคบหาแค่ไหน หรือแม้แต้เพื่อนบางคนที่ควรห่างหรือเลิกคบเพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะฉุดคุณลงเ หว !
แต่เราก็เข้าใจว่าการเลิกคบเพื่อนที่คบมานานแสนนานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แต่คุณอย่ าลืมว่าเพื่อนที่ดีต้องไม่ฉุดให้คงไม่ก้าวหน้าและชีวิตคุณต้องเดินต่อไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดี
ดังนั้นการหลีกเลี่ยงหรือโบกมือลาสิ่งที่ทำให้คุณไม่พัฒนาหรือดูแ ย่ลงเรื่อย ๆ จะเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณ
ขอบคุณที่มา : forlifeth