Home ข้อคิดสอนใจ เปลี่ยน 10 สิ่งนี้ได้ แสดงว่าคุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว

เปลี่ยน 10 สิ่งนี้ได้ แสดงว่าคุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว

1. อย่ ากังวลกับอายุ

ผู้ชายทุ กคนล้วนโตตามวัย แต่ไม่ใช่ทุ กคนที่โต (เป็นผู้ใหญ่) ผู้ชายบางคนพย าย ามที่จะรั กษาความเป็นหนุ่มไว้ตลอดไป

ซึ่งพฤติกรร มเหล่านี้เราสังเกตได้จาก ท่าทาง คำพูด และการแต่งกาย และสิ่งที่พวกเขากำลังพย าย ามทำอยู่

 

ก็คือการทำทุ กอย่ างเพื่อจะหยุดยั้งอายุที่มากขึ้นของพวกเขาแต่การทำแบบนี้ไม่ได้จะทำให้เขามีอายุยืนตลอดไปไม่ว่า

จะวิ ธีทางวิทย าศาสตร์หรือใด ๆ ก็ตามลองมองในความเป็นจริงกัน

 

ไม่มีอะไรผิดหรอกที่คนเราจะอายุมากขึ้นตามวัยของเรา ผู้ชายบางคนยิ่งอายุมาก ยิ่งดูดี ยิ่งหล่อ ยิ่งเท่ห์ด้วยซ้ำ

ดังนั้น คุณผู้ชายทั้งหลายควรแสดงออกตามช่วงวัยที่เหมาะสมยิ่งเราโตมากขึ้นการอยู่กับกฎข้อบังคับและการควบคุมต่าง ๆ

 

จะน้อยลงกว่าตอนเป็นเด็ กหรือช่วงวัยรุ่น ทำให้เราสามารถทำอะไรได้ง่ายขึ้นด้วยความที่โตแล้ว ต่างจากตอนช่วงเ ด็ก ๆ

ดังนั้น แมนตัวจริงต้องแสดงออกอย่ างเหมาะสมกับอายุของตัวเองและใช้ชีวิตเหมือนทุ กวันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต

อย่ าไปกลัวความแ ก่หรือความต า ย แต่ให้คิดว่าเราได้ใช้ชีวิตคุ้มรึยัง

 

2. เปิดกว้างการสนทนา

ศิลปะการพูดหรือการสนทนานั้นไม่ใช่เรื่องอย ากที่คนทั่วไปคิดผู้ชายทั่ว ๆ ไปสามารถพูดคุยได้เฉพาะเรื่องที่เขาสนใจเป็นพิเศษ

เท่านั้นหากเป็นเรื่องอื่นก็แทบจะไม่สนใจหรือปิดการสนทนาแบบเนียน ๆ เลยก็ว่าได้

 

แต่หนุ่ม ๆ ที่โตแล้วเขาจะเรียนรู้การรั กษาบทสนทนาให้เป็นไปอย่ างราบรื่นและสนุกทั้งวงสนทนาแม้ว่าคุณจะไม่ได้ชื่นชอบในเรื่องที่

กำลังคุยอยู่อย่ างเป็นพิเศษแต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโบกมือลาคู่สนทนาหรือนั่งเงียบ ๆ เพียงแค่คุณเปิดใจกว้างรับฟัง

 

และปล่อยให้บทสนทนาเป็นไปอย่ างธรรมชาติ แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีความรู้ประดุจนักปราชญ์หรืออัจฉริยะที่จะรู้ไปทุ กเรื่องบนโลก

ใบนี้แต่คุณก็สามารถแสดงความสนใจและเอ็นจอยไปกับมันได้ คุณสามารถถามเพื่อช่วยให้เข้าใจเรื่องนั้น ๆ ได้ดีขึ้น

 

และเป็นการแสดงความสนใจในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวคุณด้วย

และที่สำคัญมันยังทำให้บทสนทนาไปต่อได้อย่ างราบรื่นและไม่น่าเบื่อ นี่ละที่ผู้ใหญ่มือโปรเขาทำกัน !

 

3. เพราะรัก…จึงบอก

เพราะ ”รัก” จึงบอกว่า “รัก”เรียกว่าสมัยนี้หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ขยันพูดคำว่ารักอย่ างสิ้นเปลืองมากรวมทั้งยิ่งเวลาแอลกอฮ อล์เข้า

ร่า งกายแล้วนั้น ความใจกล้าบ้ าบิ่นยิ่งทำให้กล้าพูดเรื่องแบบนี้อย่ างไม่คิดอะไรได้ง่าย ๆ

 

เรียกว่าแบบไม่เห็นใจคนฟังกันเลยทีเดียวแต่เราขอบอกหนุ่ม ๆ ว่าผู้ชายที่เขาโต กันแล้วเนี่ย เขาจะไม่พูดคำว่ารักพร่ำเพื่อ

เพราะคนที่โตแล้วจะเรียนรู้จากประสบการณ์และด้วยความเป็นผู้ใหญ่

 

เขาจะเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงว่ามันควรจะเอื้อนเอ่ยเมื่อใด แบบไหนและกับใครจึงจะเหมาะสม

และเขาจะกล่าวคำว่า “รัก” เมื่อเขารู้สึกแบบนั้นกับคน ๆ นั้นจริง ๆ ดังนั้น โตแล้วไม่พูดรักพร่ำเพื่อกันนะ

 

4. การให้เกียรติคนรัก

ในช่วงวัยรุ่น เป็นธรรมดา ๆ ที่หนุ่ม ๆ จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการตามจีบสาว ๆ ในช่วงห้วงเวลานั้นผู้ชายต่างตระหนักถึงความ

สำคัญในการใช้เวลาดูแลใส่ใจหวาน ด้วยความเสมอต้นเสมอปลายตามที่พวกเธอคาดหวังไว้

 

แต่สำหรับหนุ่มบางคนนั้นไม่เคยตระหนักถึงความสำคัญข้อนี้เลยพวกเขาละเลยการดูแลคนรักอีกทั้งยังคงสนุกกับการตาม

จีบสาว ๆ คนอื่นอีก ดังนั้น ลูกผู้ชายตัวจริง (หรือหนุ่มที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว) เขาจะไม่สนใจกับการมีรักซ้อน

 

หรือการจีบสาวคนอื่น ๆเพื่อทำให้ตัวเองดูเท่ห์หรือมีเสน่ห์ เพราะไม่ใช่วิ ธีของหนุ่ม ๆ (ที่โตแล้ว)เขาจะใช้เวลาคิดถึงอนาคต

การใช้ชีวิตร่วมกันกับหวานใจเท่านั้นโดยการตระหนักถึงกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสุขของชีวิตของทั้งคู่ต่างหากรวมทั้ง

การดูแลหวานใจอย่ างสม่ำเสมอและอยู่เคียงข้างกันตลอด

 

5. ดริ๊งอย่ างเหมาะสม

นาน ๆ ทีจะได้สนุกสนานลิ้มรสกับค็อกเทล การดื่มแอลกอฮ อล์ในปริมาณที่พอดีจะส่งผลดีต่อสุ ขภาพของหนุ่ม ๆแต่ที่ปัญหามัน

เกิดเพราะหนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจการดื่ม “พอเหมาะพอควร” นั่นเองเวลาคุณไปบาร์ลองสังเกตุแต่ละห้องแต่ละโต๊ะ

 

คุณจะสามารถแยกเด็ กหนุ่มกับผู้ใหญ่ออกจากกันได้เลย(หมายถึงการวางตัว หรือวุฒิภาวะของผู้ชายแต่ละคน)ผู้ชายที่โต

แล้วมักจะไปสนุกสนานกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนอื่น ๆ ที่เขาสนิท และมีการดื่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

โดยที่เขาสามารถดูแลและควบคุมตัวเองได้อย่ างดี และยังโชว์ความเป็นผู้ชายที่น่าเคารพได้อีกด้วยเรื่องแบบนี้เขาไม่ได้

ดูที่อายุกันนะ แต่ดูที่การแสดงออกด้วยการวางตัวอย่ างเหมาะสม

6. โตแล้ว … ต้องเก็บอ ารมณ์เป็น !

หนุ่ม ๆ ต้องเรียนรู้การแสดงอ ารมณ์อย่ างถูกวิ ธีเราเชื่อว่าหลายคนสามารถแสดงออกอย่ างสร้างสรรค์และมีกลยุทธ์

ได้ดีแต่ก็น้อยคนที่จะทำได้เช่นกันหนุ่มเจ้าโทสะบางคนถ้ามีอะไรขัดใจปุ๊ป ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน โวยวายบ้านแทบแต ก

 

ข้าวของแทบพังหรือจะเป็นหนุ่มสุดดราม่า เสี ยใจ ผิดหวัง อกหั ก เฮิร์ท ต กงาน บลา ๆ ก็ร้องไห้เป็นเต่าเผาและอีกหลาย

อาการของหนุ่ม ๆ ที่แสดงออกว่าคุณยังเป็นเ ด็กอยู่นั่นเองดังนั้น ถ้าคุณอย ากโตเป็นผู้ใหญ่นั้น เลิกซะ ! พฤติกรร มเหล่านี้

 

เพราะคนที่โตแล้วเขาจะมีวุฒิภาวะการแสดงออกทางอ ารมณ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์และกับบุคคลต่าง ๆ

เช่น คุณอาจจะแสดงความเศร้าโศกเสี ยใจกับเพื่อนสนิทของคุณได้หรือต้องเก็บอ ารมณ์โกรธเมื่อโดนขัดใจในที่สาธารณะ

 

ไม่เช่นนั้นคุณก็ยังไม่ก้าวผ่ านจากความเป็นเด็ กเ สียที จงเรียนรู้วิ ธีแสดงออกอย่ างเหมาะสม !

 

7. ดูดีจากภายในสู่ภายนอก

แน่นอนว่าไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่มีร่า งกายที่เพอร์เฟ็กต์แม้บ้านเราจะมีวิทย าการเข้ามาช่วยในเรื่องนี้มากมาย

แต่ก็ยังมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยและผลกระทบอื่น ๆ อยู่บ้าง

 

ดังนั้น ผู้ชายทุ กคนจะพบว่าร่า งกายตัวเองเปลี่ยนไปตามก าลเวลาซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตและตามก าลเวลา

นั่นเองและสิ่งที่เราอย ากบอกคุณผู้ชายทั้งหลายนั่นก็คือ

 

การดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอกด้วยการมีจิ ตใจที่แจ่มใส ร่าเริง มีความสุขหรือที่เรียกว่าหล่อจากภายในนั่นเอง

รวมทั้งการดูแลตัวเองภายนอกด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามหลัก

 

โภชนาการตามแต่ละช่วงวัยของหนุ่ม ๆโดยให้ไปเป็นตามหลักธรรมชาติและการดูแลตัวเองตามหลักธรรมชาติเช่นกัน

ถ้าคุณโตเป็นผู้ใหญ่พอ …คุณจะรู้ว่าวิ ธีไหนคือวิ ธีที่จะรัก ษาสุ ขภาพกายและใจของคุณอย่ างยั่งยืนและดีที่สุด !

 

8. การควบคุมอ ารมณ์

จากงานวิจัยพบว่า การได้ปลดปล่อยอ ารมณ์หรือระบายอ ารมณ์ออกมาบ้าง “เป็นครั้งคราว” อาจจะดีต่อคุณผู้ชายทั้งหลาย

เพราะการได้แสดงทางอ ารมณ์จะช่วยให้สุ ขภาพจิ ตของหนุ่ม ๆ ดีขึ้น

 

รวมทั้งช่วยทำให้ประสิทธิภาพความแข็ งแรงของร่า งกายดีขึ้นรวมทั้งช่วยเพิ่มความต้องการทางเ พศ และยังช่วยให้การ

เจรจาต่อรองทางธุรกิจดีขึ้นแต่คุณผู้ชายทั้งหลายมักจะลืมหรือไม่เข้าใจคำว่า “ครั้งคราว , นาน ๆ ที , บางครั้ง”

 

แล้วดันแสดงอาการระบายอ ารมณ์เต็มที่อย่ าง “บ่อยครั้ง” แม้มันจะค่อนข้างย ากที่จะปรับอ ารมณ์และควบคุมอ ารณ์ของคุณ

ที่ไฟพุ่งให้เย็นลงประดุจน้ำแข็งเพื่อรั กษาสถานการณ์ได้ขึ้นแต่มันเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการรัก ษาความสงบในสถานกานนั้น ๆ

 

แต่ที่แน่ ๆ คนที่โตพอเขาจะรู้ว่าเวลาใดที่พวกเขาจะสามารถปล่อยระเ บิดได้เต็มที่และเวลาใดไม่ควรทำอย่ างยิ่ง

 

9. บอกลาความเ สียใจทั้งหลาย

ขงจื้อกล่าวว่า “ความผิ ดพลาดที่เกิดขึ้นมันก็ไม่มีผลอะไร เว้นเสี ยแต่คุณไปนั่งคิดนั่งจำมันต่อไป”ทุ กคนมีความผิ ดพลาดในชีวิต

บ่อยครั้งด้วยธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะชอบจำในเรื่องความผิดและปล่อยให้มันมาเป็นตัวทำร้ า ยจิ ตใจ

 

ของเราอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งเป็นเหตุให้ร่า งกายแ ย่ลงจากสุ ขภาพจิตภายในที่แ ย่ส่งผลต่อสุ ขภาพกายแล้วคุณคิดว่ามันมี

เหตุผลดีงามอะไรที่จะต้องมานั่งจำเรื่องพวกนี้ไปตลอดชีวิต กันล่ะลองเปลี่ยนเรื่องพวกนี้เป็นบทเรียน

 

เพื่อเป็นแรงผลักดันในชีวิตของคุณจะดีกว่ามั้ยการเก็บเรื่องพวกนี้มาเป็นอ ารมณ์ไม่ได้ช่วยให้สุ ขภาพของคุณดีขึ้นเลยนะ

คนที่โตแล้วจะไม่ปล่อยให้ความผิ ดพลาดหรือเรื่องในอดีตมาทำให้ความสุขในอนาคตหดหายไป

 

แต่จะเก็บมันมาเป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ไห้เกิดความผิ ดพลาดในอนาคตต่างหากล่ะ

 

10. โบกมือลากับสิ่งรอบตัวที่แ ย่

ในช่วงวัยเด็ กจนถึงวัยรุ่น หนุ่ม ๆ ทุ กคนก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แต กต่างกันไป ได้รู้จักผู้คนมากมายในชีวิตทั้งแต่เด็ กจนโต

ซึ่งทุ กคนต้องแยกออกอย่ างแน่นอน ว่าสิ่งไหนคือสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือไม่ดี รวมทั้งบุคคลใดที่คุณควรคบอยู่ในระดับไหน

 

ควรสนิทคบหาแค่ไหน หรือแม้แต้เพื่อนบางคนที่ควรห่างหรือเลิกคบเพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะฉุดคุณลงเ หว !

แต่เราก็เข้าใจว่าการเลิกคบเพื่อนที่คบมานานแสนนานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

 

แต่คุณอย่ าลืมว่าเพื่อนที่ดีต้องไม่ฉุดให้คงไม่ก้าวหน้าและชีวิตคุณต้องเดินต่อไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดี

ดังนั้นการหลีกเลี่ยงหรือโบกมือลาสิ่งที่ทำให้คุณไม่พัฒนาหรือดูแ ย่ลงเรื่อย ๆ จะเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณ

 

ขอบคุณที่มา : forlifeth

Comments are closed.

Check Also

แนวคิด10 ข้อ สอนลูกให้ได้ดี เติบโตไปจะได้ไม่ลำบาก

เรื่องราวสอนใจ เผิงลี่หยวน เธอได้แสดงความคิดเห็น กับเรื … …