กำแน่นเท่าใดก็สูญเสี ยมากเท่านั้น
เหมือนกับการกำทรายนั่นแหละยิ่งคุณกำแน่น ทรายก็ร่วงออกจากมือมากเท่านั้น
คนที่ควรถนอมจงรู้ถนอมเพราะ
เมื่อใดที่คุณสูญเสี ยไป สิ่งนั้น คนนั้นอาจเป็นสิ่งที่มีค่าที่ทำให้คุณเจ็ บป วดและเสี ยใจที่
สุดก็เป็นได้เมื่อใดที่รู้สึกสิ้นหวัง หากอย ากร้องไห้ก็ร้อง
ออกมาเถอะแต่เมื่อร้องจนหนำใจแล้วก็ต้องลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้งให้ได้ความซาบซึ้งทดแทนความผูกพัน
ไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นใคร เพื่อนหรือคนแปลกหน้าคุณต้องเรียนรู้ที่จะยิ้ม
แม้ในใจจะร่ำไห้สะอื้นสักเพียงใดเพราะมนุษย์ทุ กคนต่างมีความเห็นแ ก่ตั
วจงอย่ าไปคาดหวังว่าจะมีใครดีต่อคุณโดยปราศจากเงื่อนไข
หากใครคนหนึ่งไม่มีค่าเพียงพอให้คุณถนอมก็ต้องฝึกปล่อยฝึกวาง ฝึกทิ้ง
อย่ าเลือกคบคนที่รูปร่างหน้าตาจงเรียนรู้ที่จะชื่นชมคนที่ความสามารถ
และหากคุณคิดว่าตัวเองสู้คนอื่นเขาไม่ได้อย่ าได้น้อยเนื้ อต่ำใจเพราะคุณ
ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคนอื่นทั่ว ๆ ไป
พ่อแม่คือคนที่รักและปรารถนาดีต่อคุณ
มากที่สุดอย่ าคิดถึงท่านเฉพาะตอนไม่มีเงิ น
อย่ าคิดว่าในสายตาพ่อแม่ คุณยังเป็นเด็ กอยู่ตลอดเวลา
อันนี้ก็ถูก ถูกในมุมของพ่อแม่แต่ไม่สงส ารพ่อแม่เหรอที่มีลูกไม่รู้จักโตสักที
ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเพราะทุ กสิ่งเปลี่ยนไปทุ กเวลาทุ กนาที
อย่ าเอาวิ ธีการเก่า ๆ มาแก้ไข
ปัญหา คนสองคนรักกันอาจไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
อย่ าเอาแต่พร่ำเพ้อ อย่ าเอาแต่เรียกร้อง เพราะสิ่งนี้อาจเป็นชนวนที่ทำให้คนสองคนห่างไกลกันมากกว่าเดิม
หนทางของชีวิตนั้น ย า ว ไกลจงเรียนรู้ที่จะเดินลำพังบ้าง
เผื่อวันใดที่คนอื่นไม่ได้สนใจคุณเหมือนเดิมก็ไม่ต้อง เ สี ย ใจเพราะทุ กคนต่างมีเส้นทางของชีวิตที่ต้องเดิน
เหมือนกัน
ไม่มีใครเดินเคียงคู่คุณไปจนถึงปลายทางอย่ าให้ใครคนใดคนหนึ่ง
หรือเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่ง กลายเป็นทั้งหมดในชีวิตคุณ
ความโ ชคร้า ยของมนุษย์ ถือกำเนิด
ขึ้นจากการไม่ชอบที่จะอยู่เพียงลำพัง
ขอบคุณที่มา : pagejaide