1. เพราะรัก…จึงบอก
เพราะ ”รัก” จึงบอกว่า “รัก”เรียกว่าสมัยนี้หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ขยันพูดคำว่ารักอย่ างสิ้นเปลือง
มาก รวมทั้งยิ่งเวลาแอล กอฮอล์ เข้าร่า งกายแล้วนั้น
ความใจกล้าบ้าบิ่นเฮฮาปาจิงโกะยิ่งทำให้กล้าพูดเรื่องแบบนี้อย่ างไม่คิดอะไรได้ง่าย ๆเรียก
ว่าแบบไม่เห็นใจคนฟังกันเลยทีเดียว
แต่เราขอบอกหนุ่ม ๆ ว่าผู้ชายที่เขาโตกันแล้วเนี่ย เขาจะไม่พูดคำว่ารักพร่ำเพื่อเพราะคนที่โต
แล้วจะเรียนรู้จากประสบการณ์และด้วยความเป็นผู้ใหญ่
เข้าจะเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงว่ามันควรจะเอื้อนเอ่ยเมื่อใด แบบไหนและกับใครจึงจะเหมาะ
สมและเขาจะกล่าวคำว่า “รัก” เมื่อเขารู้สึกแบบนั้นกับคน ๆ นั้นจริง ๆ
ดังนั้น โตแล้วไม่พูดรักพร่ำเพื่อกันนะ
2. ดูดีจากภายในสู่ภายนอก
แน่นอนว่าไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่มีร่า งกายที่เพอร์เฟ็กต์ แม้บ้านเราจะมีวิทย าการเข้ามาช่วย
ในเรื่องนี้มากมายแต่ก็ยังมีความกังวล
ในเรื่องความปลอดภัยและผลกระทบอื่น ๆ อยู่บ้าง ดังนั้น ผู้ชายทุ กคนจะพบว่าร่า งกายตัว
เองเปลี่ยนไปตามก าลเวลาซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิต
และตามก าลเวลานั่นเอง และสิ่งที่เราอย ากบอกคุณผู้ชายทั้งหลายนั่นก็คือการดูแลตัวเอง
จากภายในสู่ภายนอกด้วยการมีจิ ตใจที่แจ่มใส ร่าเริง มีความสุขหรือที่
เรียกว่าหล่อจากภายในนั่นเอง รวมทั้งการดูแลตัวเองภายนอกด้วยการรับประทานอาหารที่มี
ประโยชน์ตามหลักโภชนาการตามแต่ละช่วงวัยของหนุ่ม ๆ
โดยให้ไปเป็นตามหลักธรรมชาติและการดูแลตัวเองตามหลักธรรมชาติเช่นกันถ้าคุณโตเป็น
ผู้ใหญ่พอ … คุณจะรู้ว่าวิ ธีไหนคือวิ ธีที่
จะรัก ษาสุ ขภาพกายและใจของคุณอย่ างยั่งยืนและดีที่สุด!
3. โตแล้ว … ต้องเก็บอ ารมณ์เป็น!
หนุ่ม ๆ ต้องเรียนรู้การแสดงอ ารมณ์อย่ างถูกวิ ธี เราเชื่อว่าหลายคนสามารถแสดงออกอย่ าง
สร้างสรรค์และมีกลยุทธ์ได้ดีแต่ก็น้อยคนที่จะทำได้เช่นกันหนุ่มเจ้า
โทสะบางคนถ้ามีอะไรขัดใจปุ๊ป ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน โวยวายบ้านแทบแต กข้าวของแทบพั ง หรือจะเป็น
หนุ่มสุดดราม่า เสี ยใจ ผิดหวัง อกหั กเฮิร์ท ต กงาน
บลา ๆ ก็ร้องไห้เป็นเต่าเผ าและอีกหลายอาการของหนุ่ม ๆ ที่แสดงออกว่าคุณยังเป็นเด็ กอยู่นั่นเอง
ดังนั้น ถ้าคุณอย ากโตเป็นผู้ใหญ่นั้นเลิกซะ!
พฤติกรร มเหล่านี้ เพราะคนที่โตแล้วเขาจะมีวุฒิภาวะการแสดงออกทางอ ารมณ์ที่เหมาะสมกับ
สถานการณ์และกับบุคคลต่าง ๆ เช่น คุณอาจจะ
แสดงความเศร้าโศกเสี ยใจกับเพื่อนสนิทของคุณได้ หรือต้องเก็บอ ารมณ์โกรธเมื่อโดนขัดใจในที่
สาธารณะไม่เช่นนั้นคุณก็ยังไม่ก้าวผ่ านจากความ
เป็น เ ด็ ก เ สียที จงเรียนรู้วิ ธีแสดงออกอย่ างเหมาะสม!
4. บอกลาความเ สียใจทั้งหลาย
ขงจื้อกล่าวว่า “ความผิ ดพลาดที่เกิดขึ้นมันก็ไม่มีผลอะไร เว้นเ สียแต่คุณไปนั่งคิดนั่งจำมันต่อไป”
ทุ กคนมีความผิ ดพลาดในชีวิตบ่อยครั้ง
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะชอบจำในเรื่องความผิดและปล่อยให้มันมาเป็นตัวทำร้ า ยจิ ตใจ
ของเราอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งเป็นเหตุให้ร่า งกาย
แ ย่ลงจากสุ ขภาพจิ ตภายในที่แ ย่ส่งผลต่อสุ ขภาพกายแล้วคุณคิดว่ามันมีเหตุผลดีงามพ ระราม
แปดอะไรที่จะต้องมานั่งจำเรื่องพวกนี้ไปตลอดชีวิต
กันล่ะลองเปลี่ยนเรื่องพวกนี้เป็นบทเรียนเพื่อเป็นแรงผลักดันในชีวิตของคุณจะดีกว่ามั้ย การเก็บ
เรื่องพวกนี้มาเป็นอ ารมณ์ไม่ได้ช่วยให้สุ ขภาพของคุณดีขึ้น
เลยนะคนที่โตแล้วจะไม่ปล่อยให้ความผิ ดพลาดหรือเรื่องในอดีตมาทำให้ความสุขในอนาคตหด
หายไปแต่จะเก็บมันมาเป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ไห้เกิดความผิ ดพลาดในอนาคตต่างหากล่ะ
5. โบกมือลากับสิ่งรอบตัวที่แ ย่
ในช่วงวัยเ ด็กจนถึงวัยรุ่น หนุ่ม ๆ ทุ กคนก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แต กต่างกันไป ได้รู้จัก
ผู้คนมากมายในชีวิตทั้งแต่เ ด็กจนโตซึ่งทุ กคนต้องแยกออกอย่ างแน่นอนว่าสิ่งไหน
คือสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือไม่ดี รวมทั้งบุคคลใดที่คุณควรคบอยู่ในระดับไหนควรสนิทคบหาแค่ไหน
หรือแม้แต้เพื่อนบางคนที่ควรห่างหรือเลิกคบ
เพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะฉุดคุณลงเหว! แต่เราก็เข้าใจว่าการเลิกคบเพื่อนที่คบมานาน
แสนนานไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่คุณอย่ าลืมว่าเพื่อนที่ดี
ต้องไม่ฉุดให้คงไม่ก้าวหน้าและชีวิตคุณต้องเดินต่อไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดี ดังนั้นการหลีกเลี่ยง
หรือโบกมือลาสิ่งที่ทำให้คุณไม่พัฒนาหรือดูแ ย่ลงเรื่อย ๆ จะเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณ
ขอบคุณที่มา : meokayna