1. เพราะรัก…จึงบอก
เพราะ ”รัก” จึงบอกว่า “รัก”เรียกว่าสมัยนี้หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ขยันพูดคำว่ารัก
อย่ างสิ้นเปลืองมาก รวมทั้งยิ่งเวลาแอล กอฮอล์เข้าร่า งกาย
แล้วนั้นความใจกล้าบ้าบิ่นเฮฮาปาจิงโกะยิ่งทำให้กล้าพูดเรื่องแบบนี้อย่ าง
ไม่คิดอะไรได้ง่าย ๆเรียกว่าแบบไม่เห็นใจคนฟังกันเลยทีเดียว
แต่เราขอบอกหนุ่ม ๆ ว่าผู้ชายที่เขาโตกันแล้วเนี่ย เขาจะไม่พูดคำว่ารักพร่ำ
เพื่อเพราะคนที่โตแล้วจะเรียนรู้จากประสบการณ์และ
ด้วยความเป็นผู้ใหญ่เข้าจะเข้าใจถึงความรักที่แท้จริงว่ามันควรจะเอื้อนเอ่ย
เมื่อใด แบบไหนและกับใครจึงจะเหมาะสม และเขาจะกล่าว
คำว่า “รัก” เมื่อเขารู้สึกแบบนั้นกับคน ๆ นั้นจริง ๆ ดังนั้น โตแล้ว
ไม่พูดรักพร่ำเพื่อกันนะ
2. โบกมือลากับสิ่งรอบตัวที่ แ ย่
ในช่วงวัยเ ด็กจนถึงวัยรุ่น หนุ่ม ๆ ทุ กคนก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แต ก
ต่างกันไป ได้รู้จักผู้คนมากมายในชีวิตทั้งแต่เ ด็ กจนโต
ซึ่งทุ กคนต้องแยกออกอย่ างแน่นอนว่าสิ่งไหนคือสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือไม่ดี
รวมทั้งบุคคลใดที่คุณควรคบอยู่ในระดับไหนควรสนิทคบหาแค่ไหน
หรือแม้แต้เพื่อนบางคนที่ควรห่างหรือเลิกคบเพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะ
ฉุดคุณลงเหว! แต่เราก็เข้าใจว่าการเลิกคบเพื่อนที่คบมานานแสนนาน
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่คุณอย่ าลืมว่าเพื่อนที่ดีต้องไม่ฉุดให้คงไม่ก้าวหน้าและ
ชีวิตคุณต้องเดินต่อไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดี ดังนั้นการหลีกเลี่ยง
หรือโบกมือลาสิ่งที่ทำให้คุณไม่พัฒนา
หรือดูแ ย่ลงเรื่อย ๆ จะเป็นการดีที่สุดสำหรับคุณ
3. ดูดีจากภายในสู่ภายนอก
แน่นอนว่าไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่มีร่า งกายที่เพอร์เฟ็กต์ แม้บ้านเราจะมีวิทย าการ
เข้ามาช่วยในเรื่องนี้มากมายแต่ก็ยังมีความกังวล
ในเรื่องความปลอดภัยและผลกระทบอื่น ๆ อยู่บ้าง ดังนั้น ผู้ชายทุ กคนจะพบว่า
ร่า งกายตัวเองเปลี่ยนไปตามก าลเวลาซึ่งเป็นสัจธรรม
ของชีวิตและตามก าลเวลานั่นเอง และสิ่งที่เราอย ากบอกคุณผู้ชายทั้งหลายนั่น
ก็คือการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอกด้วยการมีจิ ตใจที่แจ่มใส
ร่าเริง มีความสุขหรือที่เรียกว่าหล่อจากภายในนั่นเอง รวมทั้งการดูแลตัวเองภาย
นอกด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ
ตามแต่ละช่วงวัยของหนุ่ม ๆโดยให้ไปเป็นตามหลักธรรมชาติและการดูแลตัวเอง
ตามหลักธรรมชาติเช่นกันถ้าคุณโตเป็นผู้ใหญ่พอ … คุณจะรู้ว่าวิ ธีไหนคือวิ ธีที่
จะรัก ษาสุ ขภาพกายและใจของคุณอย่ างยั่งยืนและดีที่สุด!
4. บอกลาความ เ สี ย ใจทั้งหลาย
ขงจื้อกล่าวว่า “ความผิ ดพลาดที่เกิดขึ้นมันก็ไม่มีผลอะไร เว้นเ สียแต่คุณไปนั่งคิดนั่ง
จำมันต่อไป”ทุ กคนมีความผิ ดพลาดในชีวิตบ่อยครั้ง
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะชอบจำในเรื่องความผิดและปล่อยให้มันมาเป็นตัว
ทำร้ า ยจิ ตใจของเราอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งเป็นเหตุให้ร่า งกาย
แ ย่ลงจากสุ ขภาพจิ ตภายในที่แ ย่ส่งผลต่อสุ ขภาพกายแล้วคุณคิดว่ามันมีเหตุผล
ดีงามพ ระรามแปดอะไรที่จะต้องมานั่งจำเรื่องพวกนี้ไปตลอดชีวิต
กันล่ะลองเปลี่ยนเรื่องพวกนี้เป็นบทเรียนเพื่อเป็นแรงผลักดันในชีวิตของคุณจะดีกว่า
มั้ย การเก็บเรื่องพวกนี้มาเป็นอ ารมณ์ไม่ได้ช่วยให้สุ ขภาพของคุณดีขึ้น
เลยนะคนที่โตแล้วจะไม่ปล่อยให้ความผิ ดพลาดหรือเรื่องในอดีตมาทำให้ความสุขใน
อนาคตหดหายไปแต่จะเก็บมันมาเป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ไห้เกิดความผิ ดพลาด
ในอนาคตต่างหากล่ะ
5. โตแล้ว … ต้องเก็บ อ า ร ม ณ์ เป็น!
หนุ่ม ๆ ต้องเรียนรู้การแสดงอ ารมณ์อย่ างถูกวิ ธี เราเชื่อว่าหลายคนสามารถแสดงออก
อย่ างสร้างสรรค์และมีกลยุทธ์ได้ดีแต่ก็น้อยคน
ที่จะทำได้เช่นกันหนุ่มเจ้าโทสะบางคนถ้ามีอะไรขัดใจปุ๊ป ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน โวยวายบ้าน
แทบแต กข้าวของแทบพั ง หรือจะเป็นหนุ่มสุดดราม่า เสี ยใจ ผิดหวัง
อกหั กเฮิร์ท ต กงานบลา ๆ ก็ร้องไห้เป็นเต่าเผ าและอีกหลายอาการของหนุ่ม ๆ ที่
แสดงออกว่าคุณยังเป็นเด็ กอยู่นั่นเอง ดังนั้น
ถ้าคุณอย ากโตเป็นผู้ใหญ่นั้นเลิกซะ!พฤติกรร มเหล่านี้ เพราะคนที่โตแล้วเขาจะมี
วุฒิภาวะการแสดงออกทางอ ารมณ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์
และกับบุคคลต่าง ๆ เช่น คุณอาจจะแสดงความเศร้าโศกเสี ยใจกับเพื่อนสนิท
ของคุณได้ หรือต้องเก็บอ ารมณ์โกรธเมื่อ
โดนขัดใจในที่สาธารณะไม่เช่นนั้นคุณก็ยังไม่ก้าวผ่ านจากความ
เป็นเด็ กเ สียที จงเรียนรู้วิ ธีแสดงออกอย่ างเหมาะสม!
ขอบคุณที่มา : meokayna